คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อำนาจที่จะพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงใด เป็นอำนาจโดยเฉพาะของกรมตำรวจจำเลยที่ 2 ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 35 โจทก์ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่อนุญาตให้โจทก์อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีกโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ในคำฟ้องไม่ได้ความว่าฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายใด ดังนี้ถือไม่ได้ว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่อาจพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๑ เป็นบุคคลสัญชาติอินเดีย จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ที่ ๒ มีบุตร ๑ คน คือเด็กหญิงลินดา สัญชาติไทย โจทก์ที่ ๑ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยจำเลยที่ ๑ อนุญาตให้อยู่ได้ชั่วคราว โจทก์ที่ ๑ ยื่นคำร้องขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีก ๑ ปี กองตรวจคนเข้าเมือง จำเลยที่ ๑ รับคำร้องสอบสวนเสนอกรมตำรวจจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ไม่อนุมัติ และแจ้งให้โจทก์ที่๑ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร คำสั่งของจำเลยที่ ๒ ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน การไม่อนุมัติจะต้องให้เหตุผลที่มีกฎหมายรับรอง ไม่ใช่ไม่อนุมัติโดยพิจารณาเอาเองตามอำเภอใจ ไม่มีหลักเกณฑ์ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องจำเลยที่ ๑ เพราะไม่เป็นนิติบุคคล
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ที่ ๑ อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีก ๑ ปี เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อความมั่นคงของประเทศ ไม่มีกฎหมายบังคับให้จำเลยที่ ๒ ต้องอนุญาตตามคำร้องของโจทก์ที่ ๑ โจทก์ฟ้องเพื่อประวิงเวลาอยู่ในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ของจำเลยสอบสวนแล้วไม่ปรากฏว่าโจทก์ที่ ๑ มีอาชีพเป็นหลักฐาน หรือมีรายได้แน่นอนจากงานใดซึ่งพอเพียงจะอุปการะภริยาคนไทย จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ที่ ๑ อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อำนาจที่จะพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงใด เป็นอำนาจโดยเฉพาะของจำเลยที่ ๒ ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๕ โจทก์อ้างว่าคำสั่งของจำเลยที่ ๒ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ ๒ แต่เมื่อพิจารณาคำฟ้องตลอดแล้วไม่ได้ความว่า คำสั่งของจำเลยที่ ๒ ฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายใด จึงถือไม่ได้ว่าคำสั่งของจำเลยที่ ๒ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่อาจพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share