คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4252/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ผู้ตายมีเจตนาจะใช้มีดที่ถืออยู่ประทุษร้ายจำเลยอย่างแน่นอน อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายใกล้จะถึง แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่มือผู้ตาย ขณะที่มือผู้ตายอยู่บริเวณใบหน้า และจำเลยรู้ดีว่าปืนของจำเลยเป็นชนิดที่ยิงออกไปแล้วกระสุนกระจายออกหลายเม็ด จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่า หากจำเลยยิงไปที่มือกระสุนปืนต้องถูกใบหน้าผู้ตายด้วย ข้ออ้างของจำเลยที่อ้างว่า ต้องการยิงมือของผู้ตายเพื่อให้มีดตกลงจากมือผู้ตายฟังไม่ขึ้น
ผู้ตายถือมีดทำครัวใบมีดยาวเพียง 4 นิ้ว กว้าง 1 นิ้ว เข้ามาจะทำร้ายจำเลยหากจำเลยเพียงแต่ใช้อาวุธปืนขู่หรือเพียงแต่ยิงขู่ผู้ตายซึ่งเมาสุราและถือมีดดังกล่าว ก็ไม่น่าจะกล้าใช้มีดนั้นเข้ามาทำร้ายอีกต่อไป แม้จำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเพียงนัดเดียวก็เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 68, 69, 288 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพข้อหาฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ส่วนข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยให้การปฏิเสธอ้างว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ระหว่างพิจารณา นางแฉล้ม ฤทธิเดช มารดานายทัน ฤทธิเดช ผู้ตายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 69 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง เป็นความผิดหลายกรรม เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำคุก 4 ปี ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือนฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 9 เดือนริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้วคงจำคุก 3 ปี เมื่อรวมกับโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตแล้ว รวมเป็นจำคุก 3 ปี 9 เดือน ไม่ริบมีดทำครัวของกลาง แต่ให้คืนแก่ทายาทของนายทัน ฤทธิเดช ผู้ตายและให้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของโจทก์ร่วมเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเป็นการกระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายเรียกจำเลยให้เข้าไปนั่งที่ม้าหินอ่อนกับผู้ตายแล้วผู้ตายบอกจำเลยว่าไม่กลัวจำเลย จำเลยพูดว่าจำเลยไม่ได้ทำอะไรผู้ตาย ผู้ตายว่าจำเลยทำไม ผู้ตายก็พูดอีกว่าผู้ตายไม่กลัวจำเลย จำเลยจึงพูดว่า จะเอาอย่างไรกันผู้ตายบอกว่าเอาอย่างไรก็ได้ แล้วผู้ตายล้วงมีดออกมา จำเลยถอยหลังหนีผู้ตายตามจำเลยไปห่างกันประมาณ 2 เมตร จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเพียง 1 นัดกระสุนปืนถูกที่บริเวณหน้าผากและมือของผู้ตาย เห็นว่า ผู้ตายเมาสุรา พูดท้าทายจำเลยและชักมีดออกมาจะทำร้ายจำเลย จำเลยถอยหนี ผู้ตายก็ยังเดินตามเข้าไปใกล้จำเลยประมาณ 2 เมตร จำเลยถอยไปติดกอไม้ ไม่มีทางที่จะหนีไปทางใดได้ บุคคลที่อยู่ในภาวะเช่นจำเลยย่อมจะเข้าใจได้ว่าผู้ตายมีเจตนาจะใช้มีดที่ถืออยู่ประทุษร้ายจำเลยอย่างแน่นอน อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายใกล้จะถึง แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่มือของผู้ตายขณะที่มือผู้ตายอยู่บริเวณใบหน้า จำเลยต้องรู้ดีว่าปืนของจำเลยที่บรรจุกระสุนชนิดยิงออกไปแล้วกระสุนกระจายออกหลายเม็ดนี้ เมื่อยิงออกไปกระสุนปืนย่อมถูกทั้งมือและใบหน้าของผู้ตายได้ แม้จำเลยจะต่อสู้คดีว่า จำเลยเจตนายิงไปที่มือของผู้ตาย แต่เมื่อปรากฏว่าขณะนั้นจำเลยเห็นมือของผู้ตายอยู่ตรงบริเวณใบหน้าของผู้ตาย จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าหากจำเลยยิงไปที่มือกระสุนปืนต้องถูกใบหน้าของผู้ตายด้วย ข้ออ้างของจำเลยที่อ้างว่าต้องการยิงมือของผู้ตายเพื่อให้มีดตกลงจากมือผู้ตายฟังไม่ขึ้นผู้ตายถือมีดทำครัวใบมีดยาวเพียง 4 นิ้ว กว้าง 1 นิ้วเข้ามาจะทำร้ายจำเลย หากจำเลยเพียงแต่ใช้อาวุธปืนขู่หรือเพียงแต่ยิงขู่ ผู้ตายซึ่งเมาสุราและถือมีดทำครัวใบมีดยาวเพียง 4 นิ้ว ก็ไม่น่าจะกล้าใช้มีดดังกล่าวเข้ามาทำร้ายจำเลยอีกต่อไป แม้จำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเพียงนัดเดียวก็เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี สำหรับความผิดกระทงนี้ชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share