คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ไม้แปรรูปและเครื่องใช้ของกลางเป็นทรัพย์ที่ได้มาและมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ การที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่าจำเลยทั้งสองซื้อไม้แปรรูปจากโรงเลื่อยจักรโดยถูกต้องตามกฎหมายและเครื่องใช้ดังกล่าวก็ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ ฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการตัดไม้ทำลายป่าอันเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ จึงเป็นความผิดร้ายแรงสมควรแก่การกำราบปราบปราม การที่จำเลยมีไม้แปรรูป ปริมาตร 16.68 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 21.590 แผ่น ซึ่งเป็นไม้ที่มีจำนวนมากและสิ่งประดิษฐ์ที่ทำขึ้นโดยผิดกฎหมายไว้ในครอบครองนับได้ว่าจำเลยกระทำความผิดอันมีลักษณะร้ายแรงดังนี้ ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 47, 48, 73, 74 ที่แก้ไขแล้ว ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ริบไม้แปรรูป 21,590 แผ่น ตู้ไม้อัด 6 หลัง โต๊ะเครื่องแป้ง 5 ตัว และเตียงราชา 4 หลัง ของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตา 4, 47, 48, 73 (ที่ถูกมาตรา 73 วรรคแรก)74 ที่แก้ไขแล้วประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ลงวันที่ 3พฤศจิกายน 2499 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุกคนละ 8 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุกคนละ 4 เดือน ริบไม้แปรรูป 21,590 แผ่นตู้ไม้อัด 6 หลัง โต๊ะเครื่องแป้ง 5 ตัว และเตียงราชา 4 หลังของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษและขอให้คืนของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทั้งสองคนละ 8,000บาท อีกสถานหนึ่ง ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 แล้ว คงปรับคนละ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 และให้ยกคำขอริบของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไม้และสิ่งประดิษฐ์ของกลางไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา โดยเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้นขอให้ลงโทษจำเลยและริบของกลางตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องและจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าไม้แปรรูป 21,590 แผ่น ตู้ไม้อัดโต๊ะเครื่องแป้งและเตียงราชาของกลางเป็นไม้แปรรูปและสิ่งประดิษฐ์ที่ได้มาและมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ การที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่าจำเลยทั้งสองซื้อไม้แปรรูปจากโรงเลื่อยจักรโดยถูกต้องตามกฎหมาย และเครื่องใช้ดังกล่าวก็ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสองได้ให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นมากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นอีกด้วย ดังนั้นการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าไม้แปรรูปมิใช่ไม้อันจำเลยได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ และ ตู้ไม้อัด โต๊ะเครื่องแป้ง เตียงราชามิใช่สิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้หวงห้ามและพิพากษายกคำขอให้ริบของกลาง จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าของกลางดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 จึงเป็นทรัพย์สินที่ต้องริบ
ส่วนที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยไม่รอการลงโทษนั้นคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย และให้รอการลงโทษไว้เนื่องจากฟังข้อเท็จจริงว่าไม้แปรรูปของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นการพิจารณาพิพากษาคดีโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่รับฟังมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายดังวินิจฉัยมาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการตัดไม้ทำลายป่าอันเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ จึงเป็นความผิดร้ายแรงสมควรแก่การกำราบปราบปราม การที่จำเลยมีไม้แปรรูปปริมาตร16.68 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 21,590 แผ่น ซึ่งเป็นไม้ที่มีจำนวนมากและสิ่งประดิษฐ์ที่ทำขึ้นโดยผิดกฎหมายไว้ในครอบครองเช่นนี้นับได้ว่าจำเลยกระทำความผิดอันมีลักษณะร้ายแรง ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษให้จำเลย”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share