คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3518/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

กรมธรรม์ประกันภัยระบุว่า จำเลยจะต้องรับผิดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยต้องสูญเสียหรือเสียหายไปเฉพาะเนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่าหรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น เมื่อทรัพย์ที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้สูญเสียหรือเสียหายเนื่องมาจากการระเบิดของแก๊สที่ใช้จุดสำหรับหุงต้มอาหารเพื่อจำหน่ายที่ภัตตาคารซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานของโจทก์จึงมิใช่การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย จึงไม่อยู่ในความคุ้มครอง ทั้งยังเข้าข้อยกเว้นความรับผิดที่กำหนดไว้ว่า การประกันภัยรายนี้ไม่คุ้มครองการสูญเสียหรือการเสียหายอันเกิดจากหรือเนื่องมาจากการระเบิดทุกชนิดรวมทั้งการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการผลิตจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาประกันวินาศภัยรวมทั้งดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 2,628,909.35 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 2,533,888.55 บาทนับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 2,072,388.10 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง (8 ธันวาคม 2526) จนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์ได้เอาประกันภัยตัวอาคารสำนักงานที่ทำการของโจทก์ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งภายใน เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ภายในสำนักงานไว้กับจำเลยในวงเงิน 5,000,000 บาท โดยระบุให้ธนาคารกวางตุ้ง จำกัด เป็นผู้รับประโยชน์ ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายสัญญากรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.5 จ.6 ต่อมาในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยได้เกิดแก๊สที่ใช้จุดสำหรับหุงต้มอาหารเพื่อจำหน่ายในกิจการของบริษัทชัยเฮาส์ (1980) จำกัด ระเบิดที่ภัตตาคารชัยเฮาส์ ซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานของโจทก์ ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้ได้รับความเสียหายโจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากธนาคารกวางตุ้ง จำกัด และได้แจ้งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมชำระ คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ และโจทก์เสียหายหรือไม่เพียงใด
ในปัญหาประการแรกที่ว่า จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่นั้น เกี่ยวกับปัญหานี้ จำเลยให้การต่อสู้ว่า สัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์และจำเลยเป็นสัญญาที่ให้ความคุ้มครองการสูญเสียและการเสียหายเนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่าทรัพย์สินที่เอาประกันภัยซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยระบุไว้ชัดแจ้งว่า “กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย” และในส่วนที่ว่าด้วยสัญญาคุ้มครองก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “บริษัทตกลงสัญญากับผู้เอาประกันภัยว่า ถ้าทรัพย์สินที่เอาประกันภัยดังกล่าวหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยนี้ต้องสูญเสียหรือเสียหายเนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่าหรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น” นอกจากนี้ ข้อ 2 และ 2.5 แห่งกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว ยังได้ระบุว่า “เว้นแต่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ฉบับนี้โดยชัดแจ้ง การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองการสูญเสียหรือการเสียหายอันเกิดจากหรือเนื่องมาจากหรือเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อมจากสาเหตุดังต่อไปนี้ 2.5 การระเบิดทุกชนิด รวมทั้งการระเบิดของแก๊สในโรงงานแก๊สหรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการผลิต (เว้นแต่การระเบิดของแก๊สสำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น)” เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าความเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเกิดจากการระเบิดของแก๊สที่ใช้หุงต้มอาหารในภัตตาคารชัยเฮาส์ในการประกอบกิจการจำหน่ายอาหาร จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมายจ.5 หน้า 4 ในส่วนที่ว่าด้วยสัญญาคุ้มครองได้ระบุไว้ชัดเจนว่าจำเลยจะต้องรับผิดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยต้องสูญเสียหรือเสียหายไปเฉพาะ “เนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า หรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น” เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติแล้วว่า ทรัพย์สินเอาประกันภัยต้องสูญเสียหรือเสียหายเนื่องมาจากการระเบิดของแก๊สที่ใช้จุดสำหรับหุงต้มอาหารเพื่อจำหน่ายในกิจการของบริษัทชัยเฮาส์ (1980) จำกัด ที่ภัตตาคารชัยเฮาส์ซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานของโจทก์ จึงมิใช่การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าเหตุดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากการกระทำของโจทก์ผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลภายนอกตามฎีกาของโจทก์ การสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้จึงไม่อยู่ในความคุ้มครอง ทั้งยังเข้าข้อยกเว้นความรับผิดตามข้อ 2.5 ที่กำหนดไว้ว่าการประกันภัยรายนี้ไม่คุ้มครองการสูญเสียหรือการเสียหายอันเกิดจากหรือเนื่องมาจากการระเบิดทุกชนิด รวมทั้งการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการผลิต ดังนั้นจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว”
พิพากษายืน

Share