คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การมอบอำนาจให้ฟ้องคดี เป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการครั้งเดียวตามข้อ 7(ก) ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ส่วนที่โจทก์ผู้มอบอำนาจระบุข้อความในหนังสือมอบอำนาจว่า ให้มีอำนาจจำหน่ายสิทธิของโจทก์เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง การถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ให้มีอำนาจแต่งทนายความและรับเงินหรือเอกสารคืนจากศาลนั้นเป็นเรื่องกระบวนพิจารณาที่ผู้รับมอบอำนาจจักต้องกระทำในการพิจารณา ของศาลอันสืบเนื่องมาจากการฟ้องคดีที่ได้รับมอบอำนาจ ไม่ใช่เป็นเรื่องอื่นต่างหากจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี โจทก์ผู้มอบอำนาจเสียอากรโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท จึงชอบด้วยกฎหมาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 รับเงินกู้จากโจทก์ 1,200 บาทแล้วคืนที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 124 ให้แก่โจทก์ ให้เพิกถอนการออกน.ส.3 เลขที่ 293 ที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ออกทับที่ดินของโจทก์ตามส.ค.1 เลขที่ 124 หรือมิฉะนั้นก็ขอให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 จดทะเบียนโอนน.ส.3 เลขที่ 293 ให้แก่โจทก์ทั้งแปลง
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพาทษาให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 รับเงินจำนวน 1,200 บาทจากโจทก์แล้วคืนที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 124 ให้แก่โจทก์ หรือให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 โอนที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 293 เนื้อที่ 1 ไร่ 8ตารางวา ตาม ส.ค.1 เลขที่ 124 ให้แก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยที่ 4 ฎีกาว่าหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 เป็นการมอบอำนาจในครั้งเดียวผู้รับมอบอำนาจเพียงคนเดียวมีอำนาจกระทำการมากกว่าครั้งเดียวกล่าวคือ ผู้รับมอบอำนาจลงลายมือชื่อแต่งทนายความ 2 คน อ้างตนเองเป็นพยาน และได้ให้อำนาจในการกระทำอย่างอื่น เช่น การรับเงินและเอกสารคืนจากศาลด้วย แต่โจทก์ปิดอากรแสตมป์เพียง 10 บาทไม่ครบถ้วนตามกฎหมายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยไม่ได้ให้การเป็นประเด็น และไม่ได้อุทธรณ์ซึ่งถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตาม จำเลยที่ 4ก็มีสิทธิยกขึ้นฎีกาได้ และตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายหมวด 6เรื่อง อากรแสตมป์แห่งประมวลรัษฎากรก็ได้กำหนดลักษณะแห่งตราสารที่จะต้องเสียอากรไว้ในข้อ 7 ว่าใบมอบอำนาจ คือ ใบตั้งตัวแทนซึ่งมิได้กระทำในรูปลักษณะตราสารสัญญา รวมทั้งใบตั้งอนุญาโตตุลาการ(ก) มอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวหรือหลายคนกระทำการครั้งเดียวค่าอากรแสตมป์ 10 บาท (ข) มอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวหรือหลายคนร่วมกระทำการมากกว่าครั้งเดียว ค่าอากรแสตมป์ 30 บาท ฯลฯศาลฎีกาเห็นว่าตามหนังสือมอบอำนาจท้ายคำฟ้อง เอกสารสารบาญอันดับที่ 3 ที่โจทก์มอบอำนาจให้นายลอย จันทา ฟ้องจำเลยทั้งสี่เรื่องที่ดิน ซึ่งเป็นเรื่องเดียวโดยเฉพาะ จึงเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการครั้งเดียวตามข้อ 7(ก) ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ดังกล่าว ส่วนที่โจทก์ระบุข้อความต่อไปในหนังสือมอบอำนาจว่า โดยให้มีอำนาจจำหน่ายสิทธิของโจทก์เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง การถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความการสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ให้มีอำนาจแต่งทนายให้มีอำนาจเช่นเดียวกัน ทั้งหากมีการรับเงินหรือเอกสารคืนจากศาลก็ให้มีอำนาจเช่นเดียวกันไว้ด้วยและผู้รับมอบอำนาจได้แต่งทนายความ 2 คนนั้น เป็นเรื่องกระบวนพิจารณาที่ผู้รับมอบอำนาจจักต้องกระทำในการพิจารณาของศาลอันสืบเนื่องมาจากการฟ้องคดีตามที่ได้รับมอบอำนาจ กรณีหาใช่เป็นเรื่องอื่นต่างหากจากการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ โจทก์ผู้มอบอำนาจเสียอากรโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท จึงชอบด้วยกฎหมาย…”
พิพากษายืน

Share