คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4390/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ราษฎรย่อมไม่เป็นผู้เสียหายไม่มีสิทธิเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมจึงไม่ชอบ เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาโดยจำเลยเป็นผู้ฎีกา แม้ศาลฎีกาพิพากษายืน ก็ให้ยกคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 43, 51, 148, 157 จำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างพิจารณาผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์โดยได้รับการรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงจากอธิบดีกรมอัยการ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 51,148, 157 ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 43, 157 ซึ่งเป็นบทหนัก ปรับจำเลย 1,000 บาท จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ซึ่งหม่อมหลวงอัญชลิต กาญจนะวิชัยย่อมไม่เป็นผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วม จึงเป็นการไม่ชอบ”
พิพากษายืน แต่ให้ยกคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม

Share