แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ทนายโจทก์ยื่นคำแถลงขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์ ข้อความท้ายคำร้องแถลงมีว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นไม่อนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์ ให้โจทก์แถลงว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปภายใน 3 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้อง ต้องถือว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งนั้นแล้ว เมื่อโจทก์มิได้แถลงภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นกรณีที่ถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ศาลชั้นต้นมีอำนาจจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 ไม่ได้บังคับว่าศาลต้องจำหน่ายคดี เป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2527 ให้โจทก์แถลงภายใน 3 วัน วันที่7 ธันวาคม 2527 ทนายโจทก์ติดประชุม วันที่ 8 ธันวาคม 2527 ตรงกับวันเสาร์อันเป็นวันหยุดราชการ วันสุดท้ายแห่งระยะเวลาคือวันที่ 9 ธันวาคม 2527 แต่วันที่ 9 และวันที่ 10 ธันวาคม 2527 ตรงกับวันอาทิตย์และวันพระราชทานรัฐธรรมนูญตามลำดับอันเป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงมีสิทธิแถลงในวันที่ 11 ธันวาคม 2527 ได้ด้วย การที่โจทก์แถลงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2527 จึงเกินกำหนดตาม คำสั่งศาลชั้นต้นที่จะยื่นได้เพียงวันเดียว ระยะเวลาที่ศาลชั้นต้น กำหนดให้โจทก์แถลงภายใน 3 วัน เป็นระยะเวลาค่อนข้างสั้น สำหรับกรณีนี้ ทั้งขณะโจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่มีเจตนาทิ้งฟ้องและ แถลงขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนา คำฟ้องตามคำสั่งของศาลชั้นต้น อันเป็นการแสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ดำเนินคดีต่อไปศาลชั้นต้นก็ ยังมิได้สั่งจำหน่ายคดี คดีมีเหตุสมควรให้โจทก์ได้มีโอกาสดำเนินคดี ต่อไปโดยยังไม่สั่งจำหน่ายคดีของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 1,637,656 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องแก่โจทก์ และรับโอนรถยนต์จากโจทก์ศาลชั้นต้นสั่งรับคำฟ้อง หมายส่งสำเนาให้จำเลยโดยให้โจทก์นำส่งภายใน 7 วัน ถ้าส่งไม่ได้ ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายในกำหนด 15 วันนับแต่วันส่งไม่ได้ หากไม่แถลงให้ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องต่อมาพนักงานเดินหมายรายงานว่าได้นำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งที่ภูมิลำเนาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2527 โจทก์ยื่นคำแถลงว่าจำเลยที่ 1 คงมีภูมิลำเนาอยู่ตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่สามารถค้นหาที่อยู่ได้ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเนื่องจากหลบหนีหมายจับของศาล ขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยประกาศทางหนังสือพิมพ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า จำเลยทั้งสองมีอยู่ที่แน่นอน ไม่อนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์ให้โจทก์แถลงว่าจะดำเนินการอย่างไรภายใน 3 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้อง โจทก์ทั้งสองมิได้แถลงภายในกำหนดแต่ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม 2527 โจทก์ทั้งสองจึงยื่นคำร้องว่า โจทก์ทั้งสองไม่มีเจตนาทิ้งฟ้อง ขอให้งดสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง และยื่นคำแถลงขอให้ศาลชั้นต้นสั่งให้พนักงานเดินหมายส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยทั้งสองอีกครั้งถ้าไม่มีผู้รับให้ปิดหมาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์ส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องให้จำเลยในวันที่ 6 ธันวาคม2527 และให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 3 วัน โดยสั่งในวันที่โจทก์ยื่นคำแถลง ถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลแล้ว เมื่อโจทก์ไม่แถลงภายในกำหนดถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องจำหน่ายคดี
โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องว่าโจทก์มิได้จงใจทิ้งฟ้อง ขอให้แก้ไขคำสั่งทิ้งฟ้องหรือที่สั่งจำหน่ายคดี ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องโจทก์ทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความท้ายคำร้องคำแถลงมีว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้วทนายโจทก์ทั้งสองยื่นคำแถลงขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นไม่อนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์ ให้โจทก์แถลงว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปภายใน 3 วันมิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้อง ต้องถือว่าโจทก์ทั้งสองได้ทราบคำสั่งนั้นแล้ว เมื่อโจทก์ทั้งสองมิได้แถลงภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นกรณีที่ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ศาลชั้นต้นมีอำนาจจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1) แต่ศาลฎีกาเห็นว่ามาตรา 132 ดังกล่าวไม่ได้บังคับว่าศาลต้องจำหน่ายคดีเป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจ คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม2527 ให้โจทก์แถลงภายใน 3 วัน ได้ความว่าวันที่ 7 ธันวาคม2527 ทนายโจทก์ติดประชุม วันที่ 8 ธันวาคม 2527 ตรงกับวันเสาร์อันเป็นวันหยุดราชการวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาคือวันที่ 9 ธันวาคม2527 แต่วันที่ 9 และวันที่ 10 ธันวาคม 2527 ตรงกับวันอาทิตย์และวันพระราชทานรัฐธรรมนูญตามลำดับ อันเป็นวันหยุดราชการโจทก์ทั้งสองจึงมีสิทธิแถลงในวันที่ 11 ธันวาคม 2527 ได้ด้วยการที่โจทก์ทั้งสองแถลงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2527 จึงเกินกำหนดตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่จะยื่นได้เพียงวันเดียว ระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์แถลงภายใน 3 วันก็เป็นระยะเวลาค่อนข้างสั้นสำหรับกรณีนี้ ทั้งขณะโจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่มีเจตนาทิ้งฟ้องและแถลงขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตามคำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการแสดงว่าโจทก์ทั้งสองประสงค์ให้ดำเนินคดีต่อไป ศาลชั้นต้นก็ยังมิได้สั่งจำหน่ายคดี เมื่อพิเคราะห์ถึงระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์ทั้งสองแถลงค่อนข้างสั้นและเป็นช่วงที่มีวันหยุดหลายวัน ทั้งโจทก์ทั้งสองแถลงช้าไปเพียงวันเดียว คดีมีเหตุสมควรให้โจทก์ได้มีโอกาสดำเนินคดีต่อไปโดยยังไม่สั่งจำหน่ายคดีของโจทก์”
พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์จัดการนำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องใหม่ภายในเวลาและวิธีการที่ศาลชั้นต้นจะได้กำหนด แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่