คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้เนื่องจากบ้านที่อยู่ของจำเลยได้รื้อถอนไปแล้ว และยังไม่เป็นการแน่นอนว่าจำเลยมีภูมิลำเนาใหม่อยู่ ณ ที่ใดแน่นอนดังนั้นถือว่าการส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องไม่อาจกระทำ ณภูมิลำเนาของจำเลยได้ การที่ศาลสั่งให้ส่งโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์ตามคำขอของโจทก์จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งป.วิ.พ. มาตรา 79
จำเลยรู้ว่าได้มีการส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องแล้ว แต่ได้รื้อบ้านและย้ายออกไปอยู่ที่อื่นโดยมิได้แจ้งย้ายทะเบียนให้ปรากฏหลักฐานภูมิลำเนาไว้ อันเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับรู้การถูกดำเนินคดี กรณีจึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องและวันนัดพิจารณาคดีโดยทางประกาศหนังสือพิมพ์แล้วการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยจงใจจำเลยจะอ้างว่าตนยังไม่ได้รับหมายเรียกและรับทราบวันนัดพิจารณาเพื่อจะขอพิจารณาคดีใหม่ไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินยืม จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ อ้างเหตุว่าจำเลยที่ 1 ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว จึงไม่ทราบว่าถูกฟ้อง
โจทก์คัดค้าน
ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘การส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องคดีนี้ปรากฏผลการส่งครั้งแรกโดยเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีว่า ไม่พบตัว และทราบจากคนข้างบ้านว่าจำเลยที่ 1 ไปธุระต่างจังหวัด แต่ในการส่งครั้งที่สองซึ่งศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปิดหมายในกรณีไม่มีผู้รับ ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ศาลว่า บ้านที่อยู่ของจำเลยที่ 1 ได้รื้อถอนออกจากที่นั้นไปแล้ว ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ได้ความว่าจำเลยที่ 1ได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่ตำบลอื่นอันแสดงเจตนาย้ายที่อยู่ใหม่ กรณีจึงถือว่าจำเลยที่ 1 มิได้มีภูมิลำเนาตามฟ้องแล้ว และยังไม่เป็นการแน่นอนว่าจำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ ณ ที่ใดที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า โจทก์ได้ทราบตามรายงานการส่งหมายว่าจำเลยที่ 1 ได้ย้ายที่อยู่ไปที่ตำบลแจงงามแล้วนั้น เห็นว่า เพียงข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยยังไม่มีการแจ้งย้ายทะเบียน ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาใหม่อยู่ ณ ที่ใดแน่นอน ดังนั้นเมื่อการส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องไม่อาจกระทำ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 ได้ การที่ศาลสั่งให้ส่งโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์ตามคำขอของโจทก์จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79 แล้ว ทั้งเมื่อได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 ได้ย้ายบ้านที่อยู่ในเดือนสิงหาคม 2525 ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับที่ได้มีการส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องไปยังที่อยู่ของจำเลยที่ 1 ในครั้งแรก ประกอบกับจำเลยที่ 1 ได้รับการทวงถามให้ชำระหนี้ตามเอกสารหมาย จ.6 พฤติการณ์มีเหตุให้น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 1 รู้ว่าได้มีการส่งเอกสารแห่งคดีดังกล่าวแล้ว แต่ได้รื้อบ้านและย้ายออกไปอยู่ที่อื่นโดยมิได้แจ้งย้ายทะเบียนให้ปรากฏหลักฐานภูมิลำเนาใหม่ไว้อันเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับรู้การถูกดำเนินคดี กรณีจึงต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทราบการส่งหมายเรียก สำเนาฟ้องและวันนัดพิจารณาคดีโดยทางประกาศหนังสือพิมพ์แล้วที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าการขาดนัดของจำเลยที่ 1 เป็นไปโดยจงใจ ไม่มีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share