คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยนำรถยนต์ที่มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆ และแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งขอตรวจดูความถูกต้องของรถ เป็นการใช้รถยนต์และอ้างหรือแสดงรถยนต์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ เมื่อรถยนต์มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมย่อมถือได้ว่าจำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจแล้ว แม้ว่าหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์จะอยู่ในลักษณะที่ปกปิดก็ตามและการที่จำเลยอ้างหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยใช้เอกสารดังกล่าวด้วย จำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม หมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมโดยมีเจตนาอย่างเดียวกันคือเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับนั้นเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นความผิดกรรมเดียว โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยอ้างหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม แม้จะมิได้บรรยายไว้โดยชัดแจ้งว่าจำเลยใช้หมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยใช้เอกสารปลอมดังกล่าวด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมกันปลอมแปลงหมายเลขทะเบียนหมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถังหรือโครงแชชซี แผ่นป้ายทะเบียนและป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีประจำปีซึ่งเป็นเอกสารราชการของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ข.14726 เป็นของรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4ม-2527 แล้วนำไปติดไว้กับรถยนต์คันดังกล่าวแทน และได้อ้างแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 83 และริบแผ่นป้ายวงกลมและแผ่นป้ายทะเบียนของกลาง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า หมายเลขเครื่องยนต์หมายเลขตัวถังเป็นเอกสารสิทธิ ทะเบียนรถยนต์เป็นเอกสารราชการ และป้ายวงกลมแสดงการชำระภาษีเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการจำเลยทำผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษบทหนักฐานใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอมจำคุก 3 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุก 2 ปี ของกลางริบ จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าแผ่นป้ายวงกลมไม่ใช่เอกสารสิทธิ พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดเพียงฐานใช้หมายเลขทะเบียนรถยนต์และป้ายวงกลมซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมรวม 2 กระทง จำคุก 3 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามที่คู่ความไม่โต้แย้งกันและตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2525 เวลาประมาณ 10.30นาฬิกา ขณะที่จ่าสิบตำรวจเดชา อรุณศรี และสิบตำรวจโทเมธี(ยศขณะเบิกความ) เอี่ยมจรูญ ปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ที่ตู้ยามหน้าโรงภาพยนต์เฉลิมชัยรามา ตำบลหลังสวน จำเลยได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาวของกลางมาจอดที่ตู้ยามดังกล่าวเจ้าพนักงานตำรวจทั้งสองคนเข้าไปตรวจดูแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ติดไว้ทางด้านหน้าและด้านหลังเป็นแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน 4ม-2557กรุงเทพมหานคร จึงเกิดความสงสัยเนื่องจากรถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์รุ่นเก่าควรมีหมายเลขทะเบียนเป็นอักษรหมวด น. หรือ บ.เมื่อตรวจดูป้ายแผ่นวงกลมแสดงการเสียภาษีเห็นว่ามีสีจางกว่าปกติจึงขอตรวจดูหนังสือคู่มือจดทะเบียนจากจำเลย แต่จำเลยไม่มีโดยบอกว่ายืมรถยนต์จากนายจารึกมาใช้งานจึงได้นำจำเลยพร้อมด้วยรถยนต์ของกลางไปสถานีตำรวจภูธรอำเภอหลังสวนสอบถามกองทะเบียนกรมตำรวจได้ความว่าทะเบียนหมายเลข 4ม-2557 กรุงเทพมหานครออกให้กับรถยนต์นั่งสองแถวยี่ห้อโตโยต้าสีเหลืองของนายบุญเสริมพรศิริเชิด จึงแจ้งข้อหาว่าจำเลยปลอมและใช้เอกสารปลอมมอบตัวจำเลยพร้อมรถยนต์ของกลางให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนส่งรถยนต์ของกลางไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานและกองทะเบียนกรมตำรวจ ผลการพิสูจน์ปรากฏว่า หมายเลขทะเบียนรถยนต์ ป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษี หมายเลขตัวถังรถยนต์ และหมายเลขเครื่องยนต์ของรถยนต์ของกลางเป็นของปลอมเมื่อจำเลยนำรถยนต์ของกลางออกมาใช้ในวันเกิดเหตุจำเลยรู้อยู่แล้วว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษี หมายเลขเครื่องยนต์ และหมายเลขตัวถังรถยนต์ซึ่งติดอยู่กับรถยนต์ของกลางเป็นเอกสารปลอม ปัญหาในชั้นนี้มีว่าจำเลยมีความผิดฐานใช้และอ้างหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์อันเป็นเอกสารปลอมหรือไม่
พิเคราะห์แล้ว เมื่อจำเลยนำรถของกลางออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆและแสดงต่อจ่าสิบตำรวจเดชา อรุณศรี กับสิบตำรวจโทเมธีเอี่ยมจรูญ ซึ่งขอตรวจดูความถูกต้องของรถของกลาง ย่อมกล่าวได้ว่าจำเลยใช้รถยนต์ของกลางและอ้างหรือแสดงรถยนต์ของกลางต่อเจ้าพนักงานตำรวจทั้งสองนายนี้แล้ว เมื่อรถยนต์ของกลางมีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมย่อมถือได้ว่าจำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจทั้งสองนายดังกล่าวด้วย แม้ว่าหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์จะอยู่ในลักษณะที่ปกปิดไว้ก็ตามทั้งนี้ เพราะหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์นั่นเอง แม้โจทก์จะมิได้บรรยายไว้โดยชัดแจ้งว่าจำเลยใช้หมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมก็ตามแต่การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยอ้างเอกสารดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานตำรวจทั้งสองนาย ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยใช้เอกสารดังกล่าวด้วย ในเมื่อตามฟ้องเห็นได้ว่าจำเลยใช้รถยนต์ของกลาง จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น แต่การกระทำของจำเลยทั้งหมด คือ ใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม หมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมเป็นความผิดกรรมเดียวทั้งนี้เพราะเอกสารเหล่านี้ติดอยู่ที่รถยนต์คันเดียวกัน ตามฟ้องของโจทก์ก็ปรากฏว่าจำเลยแสดงเอกสารเหล่านี้ต่อเจ้าพนักงานตำรวจทั้งสองนายดังกล่าวในเวลาเดียวกันตามพฤติการณ์ก็เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาอย่างเดียวกันคือเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับนั้นเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์นั้นเป็นเอกสารธรรมดาไม่ใช่เอกสารสิทธิดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาส่วนแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีและแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นเอกสารราชการตามฟ้อง ไม่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าแผ่นป้ายวงกลมเป็นเอกสารสิทธิด้วยหรือไม่ เพราะโจทก์มิได้บรรยายฟ้องมาเช่นนั้น อนึ่งแม้จำเลยมิได้ฎีกาว่าการกระทำของตนเป็นความผิดกรรมเดียว ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยนี้มาวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 ประกอบมาตรา 265 ลดโทษให้หนึ่งในสาม จำคุก 2 ปีริบของกลาง

Share