แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์คดีนี้ จำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายอีกคดีหนึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเข้าว่าคดีแทนจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้สั่งคำร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยพิพากษาคดีไปเลย ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์อนุญาตให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีแทนจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 จึงไม่มีอำนาจยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ โดยให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนต่อมาจำเลยผิดนัดไม่ชำระ โจทก์ขอบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดสิทธิการเช่าตึกแถวของจำเลยทั้งสองแก่ผู้ซื้อทรัพย์ไป
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า การขายทอดตลาดไม่ชอบ ขอให้เพิกถอน
โจทก์และผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำแถลงคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบจึงสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์จำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ 664/2532 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอเข้าว่าคดีแทนจำเลยที่ 1 แต่ศาลอุทธรณ์มิได้สั่งคำร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยพิพากษาคดีไปเลย ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์อนุญาตให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีแทนจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1จึงไม่มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาโดยยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 1 คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้จำเลยที่ 1 ค่าทนายความให้เป็นพับ