คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5593/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นสมาชิกและถือหุ้นในสหกรณ์ผู้ร้อง ซึ่งเงินค่าหุ้นที่จำเลยลงไว้ถือว่าเป็นเงินทุนของผู้ร้อง จำเลยจะถอนคืนได้ต่อเมื่อจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกดังนี้ เพื่อป้องกันสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไว้มิให้เสียหาย ศาลอาจออกคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยได้ แต่จะกำหนดในคำสั่งอายัดให้เป็นการฝ่าฝืนข้อจำกัดหรือเงื่อนไขแห่งหนี้หาได้ไม่ เพราะจะทำให้การบังคับคดีมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ศาลชั้นต้นแก้ไขคำสั่งอายัดใหม่ให้ผู้ร้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่จำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องแทนคำสั่งเดิมที่ให้ผู้ร้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันรับหมาย เป็นการสอดคล้องกับเงื่อนไขแห่งหนี้ที่ผู้ร้องต้องชำระแก่จำเลย จึงเป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระเงิน35,750 บาท แก่โจทก์ หากผิดนัดให้คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 30,000 บาท นับแต่วันผิดนัด ต่อมาจำเลยไม่ชำระ โจทก์ขอบังคับคดีโดยอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่มีอยู่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูชัยภูมิ จำกัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้นดังกล่าวโดยห้ามมิให้ผู้ร้องชำระแก่จำเลย แต่ให้ชำระหรือส่งมอบแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เงินค่าหุ้นที่จำเลยชำระแก่ผู้ร้องแล้วถือเป็นเงินทุนดำเนินการของผู้ร้องหาใช่ของจำเลยไม่ จำเลยจะถอนคืนหุ้นได้เมื่อได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้อง เมื่อจำเลยยังไม่ได้ลาออก จึงไม่มีสิทธิเรียกร้อง ที่ศาลชั้นต้นออกหมายอายัดเงินค่าหุ้นดังกล่าวเป็นการกระทบต่อสิทธิของผู้ร้อง ขอให้เพิกถอนหมายอายัด
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า เงินค่าหุ้นเป็นของจำเลยมิใช่ของผู้ร้อง ผู้ร้องจะมีข้อกำหนดอย่างไรก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะไม่ยอมส่งเงินค่าหุ้น ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกหมายอายัดเดิมเสียและให้ออกหมายอายัดใหม่ โดยกำหนดให้ผู้ร้องต้องชำระค่าหุ้นของจำเลยให้เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่จำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับคดีตามคำสั่งอายัดเดิมต่อไป
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า เงินค่าหุ้นจำนวน37,500 บาท ที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้ร้องได้ชำระแก่ผู้ร้องไปแล้วนั้น ถือว่าเป็นเงินทุนของผู้ร้อง และเงินดังกล่าวจำเลยจะถอนคืนในระหว่างที่ตนยังเป็นสมาชิกอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อบังคับของผู้ร้องที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 มาตรา 14(5) สิทธิของจำเลยที่จะถอนคืนเงินค่าหุ้นที่ชำระแล้วจึงมีเงื่อนไข กล่าวคือจะถอนคืนได้ต่อเมื่อจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องแล้ว และทำนองเดียวกันหนี้ของผู้ร้องที่จะต้องคืนเงินค่าหุ้นให้จำเลยก็มีเงื่อนไข กล่าวคือจำต้องคืนให้ต่อเมื่อจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องแล้ว ซึ่งในกรณีเช่นนี้เพื่อป้องกันสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไว้มิให้เสียหายศาลอาจออกคำสั่งอายัดให้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311 วรรคสอง แต่จะกำหนดในคำสั่งอายัดให้เป็นการฝ่าฝืนข้อจำกัดหรือเงื่อนไขแห่งหนี้นั้นหาได้ไม่ เพราะอาจมีผลกระทบต่อสิทธิของลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ ตามคำสั่งอายัดเดิมของศาลชั้นต้นที่กำหนดให้ผู้ร้องชำระหรือส่งมอบเงินค่าหุ้นของจำเลยแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันรับหมาย เป็นการบังคับผู้ร้องให้ต้องชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องโดยฝ่าฝืนเงื่อนไขแห่งหนี้ทำให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกต้องได้รับความเสียหาย ดังนั้นเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้และข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องว่าหนี้ของผู้ร้องมีเงื่อนไข ศาลก็จำต้องออกคำสั่งอายัดเสียใหม่โดยคำนึงถึงเงื่อนไขแห่งหนี้นั้นด้วย มิฉะนั้นจะทำให้การบังคับคดีตามคำขอของโจทก์มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกอันเป็นการผิดเจตนารมณ์ของบทกฎหมายที่กล่าวแล้ว ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกหมายอายัดเดิมและออกคำสั่งอายัดใหม่โดยกำหนดให้ผู้ร้องชำระหรือส่งมอบเงินค่าหุ้นของจำเลยแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่จำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้อง จึงสอดคล้องกับเงื่อนไขแห่งหนี้ที่ผู้ร้องจะต้องชำระแก่จำเลยและถูกต้องตามเจตนารมณ์ของบทกฎหมายที่กล่าวข้างต้นแล้วชอบที่จะบังคับคดีไปตามคำสั่งอายัดที่ออกใหม่
พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับคดีไปตามคำสั่งอายัดที่ออกใหม่.

Share