แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาเช่าที่ดินซึ่งเจ้าของที่ดินเดิมทำไว้กับโจทก์ระบุยินยอมให้โจทก์มีสิทธิใช้ประโยชน์เฉพาะภายในเขตทรัพย์สินที่เช่าเท่านั้น การที่ผู้ให้เช่าเดิมยินยอมลงชื่อรับรองให้โจทก์สร้างท่าเทียบเรือหน้าที่ดินที่เช่า เป็นการกระทำนอกเหนือสัญญาเช่าไม่ผูกพันจำเลยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่า แม้โจทก์ผู้เช่าจะมีหนังสือถึงจำเลยว่าโจทก์จะเป็นผู้รับผิดชอบเองหากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดในหน้าที่ดินบนฝั่งของเจ้าของที่ดินที่เช่า โจทก์ก็ไม่มีสิทธิบังคับจำเลยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าให้กระทำนอกเหนือไปจากสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินซึ่งอยู่ติดลำน้ำและอยู่ติดต่อกัน 3 แปลง โดยในขณะนั้นนายจำรัส สัมฤทธิ์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลง คือที่ดินตามโฉนดเลขที่ 8620 และ8619 และนางทิ้ง ชูรันต์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินอีก 1 แปลงเพื่อสร้างคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือมีกำหนดเวลาการเช่า 30 ปีนับตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2511 โจทก์ได้ขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ในลำน้ำหน้าที่ดินโฉนดเลขที่4619 ต่อกรมเจ้าท่าโดยนายจำรัส เจ้าของที่ดินผู้ใช้เช่ายินยอมและได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าให้สร้างและใช้ประโยชน์ในท่าเทียบเรือดังกล่าวตลอดมา ตั้งแต่ปี 2512 ต่อมาเมื่อปี 2528 โจทก์มีความประสงค์จะปรับปรุงซ่อมแซมและขยายท่าเทียบเรือเดิมให้อยู่ในสภาพดีและใหญ่ขึ้น ตามระเบียบของกรมเจ้าท่าจะต้องให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จะมีการปลูกสร้างในลำน้ำหน้าที่ดินเป็นผู้ลงชื่อให้คำรับรองในแบบพิมพ์คำร้องขอทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำด้วยโจทก์ให้พนักงานของโจทก์ติดต่อกับจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และผู้ให้เช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 8619 โดยรับโอนที่ดินและสัญญาเช่าจากนายจำรัส สัมฤทธิ์ เจ้าของเดิมเพื่อให้จำเลยลงชื่อให้ความยินยอมในแบบพิมพ์คำร้องขอทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ แต่จำเลยไม่ยอมลงชื่อ โจทก์ได้รับความเสียหายและขาดประโยชน์ ขอให้บังคับจำเลยลงชื่อในแบบพิมพ์คำร้องขอทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำของกรมเจ้าท่า เพื่อให้ความยินยอมให้โจทก์ปรับปรุง ซ่อมแซมและขยายท่าเทียบเรือที่สร้างหน้าที่ดินโฉนดเลขที่ 8619 ถ้าจำเลยไม่ยอมลงชื่อก็ขอให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและค่าขาดประโยชน์ให้โจทก์จนกว่าแบบพิมพ์คำร้องขอทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจะถูกต้องเรียบร้อย
จำเลยให้การว่า นายจำรัส สัมฤทธิ์ ได้ตกลงทำสัญญาเช่ากับโจทก์ยินยอมให้โจทก์มีสิทธิจะก่อสร้างอาคารภายในเขตทรัพย์สินที่เช่าเท่านั้น มิได้ตกลงสัญญากับโจทก์ถึงการสร้างและขยายท่าเรือด้วยแต่อย่างใด ที่นายจำรัส สัมฤทธิ์ ลงนามในคำร้องขอทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำให้โจทก์ไปนั้น เป็นเพราะโจทก์หลอกลวงนายจำรัส ตามสัญญาเช่าจำเลยไม่มีหน้าที่ต้องให้คำยินยอมต่อโจทก์ โจทก์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยลงชื่อในช่องเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินในแบบพิมพ์คำร้องขอทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเพื่อรับรองและยินยอมให้โจทก์ซ่อมแซมปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือหน้าที่ดิน โฉนดเลขที่4619 ถ้าจำเลยไม่ยอมลงชื่อ ก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนารับรองและอนุญาตของจำเลย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์จนกว่าจำเลยจะให้คำยินยอมและรับรองหรือถือว่าจำเลยให้คำยินยอมและรับรองแล้ว
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ปัญหาว่าจำเลยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เช่าจะต้องยินยอมลงชื่อรับรองในคำร้องของโจทก์ที่ขอทำการก่อสร้างปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือขนถ่ายต่อกรมเจ้าท่าตามที่โจทก์ฎีกาหรือไม่ เห็นว่า ตามสัญญาเช่าที่ดินซึ่งนายจำรัสเจ้าของที่ดินเดิมทำไว้กับโจทก์ ตามเอกสารหมาย จ.1 จ.2ข้อ 3.3 ระบุยินยอมให้โจทก์มีสิทธิใช้ประโยชน์เฉพาะภายในเขตทรัพย์สินที่เช่าเท่านั้น มิได้ระบุว่าถ้าผู้เช่าสร้างท่าเทียบเรือล่วงล้ำลำน้ำหน้าที่ดินที่เช่า ผู้ให้เช่าจะต้องยินยอมลงชื่อด้วยฉะนั้นการที่นายสัมฤทธิ์ ผู้ให้เช่าเดิมยินยอมลงชื่อรับรองให้โจทก์สร้างท่าเทียบเรือล่วงล้ำลำน้ำหน้าที่ดินที่เช่า ตามใบอนุญาตกรมเจ้าท่า ตามเอกสารหมาย จ.7 นั้น จึงเป็นการกระทำนอกเหนือสัญญาเช่า ไม่ผูกพันจำเลยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่า และการที่โจทก์ทำคำร้องขอขยายท่าเทียบเรือที่มีขนาดเกิน กว่า 500ตันกรอสส์ ตามเอกสารหมาย จ.17 เป็นการกระทำเพื่อโจทก์จะได้รับประโยชน์มากขึ้น แบบพิมพ์คำรับรองของเจ้าของที่ดินในคำร้องดังกล่าวมีว่า ถ้ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดในหน้าที่ดินบนฝั่งของเจ้าของที่ดิน เจ้าของที่ดินจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง จึงเป็นการเพิ่มภาระ ให้จำเลยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินต้องรับผิดชอบมากขึ้นกว่าความรับผิดตามสัญญาของเจ้าของที่ดินเดิมแม้โจทก์จะมีหนังสือถึงจำเลยว่าโจทก์รับเป็นผู้รับผิดชอบเองก็ตามโจทก์ก็ไม่มีสิทธิบังคับจำเลยให้กระทำนอกเหนือไปจากสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.