คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3597/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คให้ใช้เงินเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็คระบุวันออกเช็คลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2529 แต่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงยื่นเช็คต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงินวันที่ 11 กรกฎาคม 2529 จึงเกินกำหนด 1 เดือนนับแต่วันออกเช็คนั้น ตามที่มาตรา 990 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บังคับไว้ โจทก์จึงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 2 ผู้สลักหลัง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2529จำนวนเงิน 20,000 บาท โดยมีจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายและจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลัง ซึ่งจำเลยที่ 1 นำมาแลกเงินสดจากโจทก์ไป เมื่อเช็คดังกล่าวถึงกำหนด โจทก์นำไปเข้าบัญชีเรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2529 โดยให้เหตุผลว่า มีคำสั่งให้ระงับการจ่าย โจทก์ติดตามทวงถามแล้วจำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินแก่โจทก์ 20,895.83 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 20,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็ค โจทก์ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ออกเช็คแต่โจทก์นำเช็คพิพาทไปยื่นที่ธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินหลังเช็คถึงกำหนดเป็นเวลาประมาณ5 เดือน โจทก์จึงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 ขอให้>ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 20,895.83 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน20,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า จำเลยที่ 1เป็นผู้สั่งจ่ายเช็ค ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2529 จำนวนเงิน20,000 บาท มีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลัง จำเลยที่ 1นำเช็คนั้นไปแลกเงินสดจากโจทก์เป็นเช็คที่ออกและให้ใช้เงินในกรุงเทพมหานครเมืองเดียวกัน โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2529 ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน มีปัญหาชั้นฏีกาเฉพาะจำเลยที่ 2 ตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ 2ต้องรับผิดตามเช็คต่อโจทก์หรือไม่ จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 2ไม่ต้องรับผิดเพราะโจทก์ไม่ยื่นเช็คนั้นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันออกเช็ค ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 ได้บัญญัติไว้ว่า”ผู้ทรงเช็คต้องยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน คือว่า ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็ค ต้องยื่นภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันออกเช็คนั้น ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินที่อื่นต้องยื่นภายในสามเดือนถ้ามิฉะนั้น ท่านว่าผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอกแก่ผู้สลักหลังทั้งปวง ฯลฯ” เช็คระบุวันออกเช็ควันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2529 แต่โจทก์ยื่นเช็คต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงินในวันที่ 11 กรกฎาคม 2529 จึงเกินกำหนด 1 เดือน ตามที่มาตรา 990 บังคับไว้โจทก์จึงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 2ผู้สลักหลัง
พิพากษายืน.

Share