คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทมาจาก ฉ. โดยไม่มีมูลหนี้และโดยไม่สุจริต โจทก์ย่อมไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)จึงไม่มีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(2)และปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องคดีอาญา เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ให้จำคุก 1 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความจากคำเบิกความของโจทก์ว่า ขณะให้นายฉัตรชัยเอาเช็คมาแลกเงินสดไป 500,000 บาท นั้น โจทก์เป็นลูกหนี้ธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเอกมัย ประมาณ 100,000 บาทและยังเป็นลูกหนี้ธนาคารทหารไทย จำกัด สาขากลาโหม ประมาณ1,000,000 บาท นอกจากนี้โจทก์ยังเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาถนนรัชดาลาดพร้าว อีกบัญชีหนึ่งซึ่งขณะนั้นจะเป็นลูกหนี้ธนาคารหรือไม่ จำไม่ได้ เห็นว่าโจทก์เป็นลูกหนี้ธนาคารเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,100,000 บาท ต้องเสียดอกเบี้ยเป็นจำนวนไม่น้อยทั้งโจทก์ยังเอาเงินไปซื้อหุ้นในบริษัทเสมาฟ้าครามนคร จำกัดเป็นเงิน 387,600 บาท ก็โดยหวังจะได้ผลประโยชน์สูง จึงไม่น่าเชื่อว่าโจทก์จะให้นายฉัตรชัยนำเช็คมาแลกเงินสดไปถึง 500,000 บาทโดยไม่คิดดอกเบี้ยเลย โจทก์ว่าเงิน 500,000 บาทนี้ โจทก์รวบรวมจากบ้านไปมอบให้นายฉัตรชัยแลกเช็คกันต่อหน้านางรัศมีสุทธิพินิจธรรม ผู้จัดการธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาเอกมัยนางรัศมี สุทธิพินิจธรรม พยานจำเลยเบิกความว่า จำไม่ได้ว่าโจทก์หิ้วเงินมาจากบ้านเองหรือเบิกเงินจากบัญชี คำเบิกความของนางรัศมีจึงไม่เป็นประโยชน์แก่โจทก์ เห็นว่าโจทก์เป็นหนี้ธนาคารไม่ต่ำกว่า 1,100,000 บาท จึงไม่มีเหตุผลที่โจทก์จะเอาเงินเก็บไว้เองถึง 500,000 บาท นอกจากนี้การให้นายฉัตรชัยนำเช็คพิพาทมาแลกเงินสดจำนวนมากถึง 500,000 บาท แต่โจทก์ก็มิได้สอบถามถึงผู้สั่งจ่ายและฐานะการเงินเลย ทั้งมิได้ให้นายฉัตรชัยสลักหลังเช็คอีกด้วย เป็นการผิดปกติวิสัยอย่างมาก และไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องเอาเงินจำนวนมากไปให้นายฉัตรชัยที่ธนาคารศรีนคร จำกัดสาขาเอกมัย ในเมื่อโจทก์ก็มีบัญชีเงินฝากอยู่ที่นั่นแล้ว โจทก์เอาเงินเข้าบัญชี แล้วออกเช็คสั่งจ่ายให้นายฉัตรชัยก็จะสะดวกและมีหลักฐานว่านายฉัตรชัยได้รับเงินโจทก์ไปแล้วด้วย โจทก์มีตัวเองเป็นพยานผู้เดียวยืนยันว่าได้จ่ายเงินให้นายฉัตรชัยไปแต่ไม่มีเหตุผล จึงไม่มีน้ำหนัก ไม่น่าเชื่อว่าโจทก์จะได้จ่ายเงินไปจริง น่าเชื่อว่าโจทก์ได้รับเช็คจากนายฉัตรชัยมาโดยไม่มีมูลหนี้ ถือได้ว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทจากนายฉัตรชัยมาโดยไม่สุจริต โจทก์ย่อมไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 28(2) และปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องคดีอาญาของโจทก์นี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share