คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลจะอนุญาตให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานภายหลังวันชี้สองสถานได้นั้น คู่ความจะต้องแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ตามที่บัญญัติไว้ในข้อ 8วรรคท้าย แห่งข้อกำหนดคดีภาษีอากร แต่พยานบุคคลและพยานเอกสารที่โจทก์ระบุอ้างไว้ในบัญชีระบุพยานของโจทก์ ล้วนแต่เป็นพยานหลักฐานที่โจทก์ทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ขณะฟ้องคดีว่าต้องนำมาสืบเพื่อประโยชน์แก่คดีของโจทก์ การที่โจทก์อ้างว่า โจทก์เพิ่งทราบว่าต้องอ้างอิงพยานหลักฐานอะไรบ้าง เมื่อโจทก์ได้ตรวจสอบเอกสารที่จำเลยยื่นต่อศาลแล้วนั้น ไม่อาจรับฟังได้ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีเหตุขัดข้องอย่างใดที่โจทก์ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันได้ ที่โจทก์อ้างว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็มิใช่เป็นเหตุที่อ้างได้ตามกฎหมาย.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีที่ประเมินให้โจทก์เสียภาษีเงินได้สำหรับปี พ.ศ. 2520, 2522, 2523 ภาษีการค้าเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนธันวาคม 2520 มกราคม ถึง ธันวาคม 2522 และกุมภาพันธ์ 2523 กับให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์และสั่งงดเงินเพิ่มและเบี้ยปรับแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้วขอให้ยกฟ้อง ศาลภาษีอากรกลางทำการชี้สองสถานเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม2532 กำหนดให้โจทก์นำสืบก่อนโดยนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 8 กันยายน2532 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2532 โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ก่อนเริ่มสืบพยานศาลภาษีอากรกลางเห็นว่า การที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2532 ไว้นั้น เป็นคำสั่งที่สั่งโดยผิดหลงเป็นการขัดต่อข้อกำหนดคดีภาษีอากรข้อ 8 จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ดังกล่าวเสีย โจทก์ขอเวลายื่นคำร้องแสดงเหตุผลตามกฎหมายภายใน 7 วันศาลภาษีอากรกลางอนุญาต ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่ทราบความมีอยู่ของเอกสารการประเมินภาษี โจทก์เพิ่งทราบหลังจากศาลชี้สองสถาน ส่วนพยานบุคคลก็เคยไปให้การต่อเจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์โจทก์จึงได้ยื่นบัญชีระบุพยานเมื่อวันที่2 สิงหาคม 2532 ด้วยเหตุผลอันสมควรอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ โจทก์จึงขออนุญาตระบุบัญชีพยานตามบัญชีระบุพยานท้ายคำร้อง
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้องโจทก์ และไม่รับบัญชีระบุพยานท้ายคำร้อง แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คำสั่งของศาลภาษีอากรกลางที่ให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานภายหลังวันชี้สองสถาน และสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานของโจทก์นั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าการที่ศาลจะอนุญาตให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานภายหลังวันชี้สองสถานได้นั้น คู่ความนั้นจะต้องแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ตามที่บัญญัติไว้ในข้อ 8 วรรคสุดท้าย แห่งข้อกำหนดคดีภาษีอากร ปัญหาวินิจฉัยจึงอยู่ที่ว่า โจทก์มีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันหรือไม่โจทก์อ้างเหตุในคำร้องขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานว่าโจทก์เพิ่งทราบหลังจากศาลชี้สองสถานแล้วว่า จำเลยได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการประเมินและการตรวจสอบภาษีของโจทก์ต่อศาลแล้ว จากนั้นโจทก์จึงขอตรวจเอกสารดังกล่าวแล้วจึงทราบว่าเป็นเอกสารที่โจทก์ต้องใช้อ้างอิงเป็นพยานหลักฐาน ได้พิเคราะห์บัญชีระบุพยานของโจทก์ท้ายคำร้องลงวันที่ 15 กันยายน 2532 แล้ว โจทก์ระบุอ้างพยานรวม9 อันดับ อันดับ 1 ถึง 6 เป็นพยานบุคคล ซึ่งมีทั้งตัวโจทก์และทนายโจทก์รวมอยู่ด้วย ส่วนอันดับ 7 ถึง 9 เป็นพยานเอกสาร คืออันดับที่ 7 โจทก์ระบุอ้างแฟ้มและสรรพเอกสารการประเมินภาษีการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ อันดับ 8 ระบุอ้างหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทปัฐวิกรณ์ จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการผู้จัดการและอันดับ 9 ระบุอ้าง แบบ ภ.ง.ด. 9 ก. ของโจทก์จากบัญชีระบุพยานของโจทก์ทั้ง 9 อันดับดังกล่าว เห็นได้ว่า ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ระบุอ้าง ล้วนแต่เป็นพยานหลักฐานที่โจทก์ทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ขณะฟ้องคดีว่า ต้องนำมาสืบเพื่อประโยชน์แก่คดีโจทกื ฉะนั้นที่โจทก์อ้างว่าโจทก์เพิ่งทราบว่าต้องอ้างอิงพยานหลักฐานอะไรบ้างเมื่อโจทก์ได้มาตรวจสอบเอกสารที่จำเลยยี่นต่อศาลแล้วนั้น จึงรับฟังไม่ได้ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีเหตุขัดข้องอย่างใดที่โจทก์ไม่สามารถจะมายื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันได้ โจทก์คงอ้างแต่ว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ซึ่งก็มิใช่เป็นเหตุที่อ้างได้ตามกฎหมาย สรุปแล้วคำร้องของโจทก์ที่ขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานภายหลังวันชี้สองสถานนั้นไม่สามารถแสดงเหตุอันสมควรได้ ศาลจึงไม่อาจอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานตามคำร้อง…”
พิพากษายืน.

Share