คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3562/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ชราภาพมากแล้ว มีค่าใช้จ่ายน้อย มีบุตรหลายคนช่วยกันอุปการะเลี้ยงดูไม่เดือดร้อน ตามสถานภาพของโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าเป็นคนยากไร้ ทั้งจำเลยเองก็เป็นลูกจ้างอยู่ที่กรุงเทพมหานครได้เงินเดือนเพียง 600 บาท มีบุตร 1 คน ต้องเลี้ยงดู ที่ดินที่ได้รับการยกให้จำเลยก็มอบให้ ก. ทำกิน โดย ก. นำข้าวที่ได้แบ่งไปเลี้ยงดูโจทก์ด้วย แม้จำเลยจะเป็นบุตรมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูโจทก์แต่มิได้อยู่เลี้ยงดูโดยไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ปล่อยให้พี่น้องคนอื่นเลี้ยงดูแทนก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติเนรคุณอันจะเป็นเหตุให้ถอนคืนการให้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 531(3).

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) จำนวน 2 แปลง แปลงแรกทะเบียนเล่ม 85 หน้า 15เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ แปลงที่สองทะเบียนเล่ม 85 หน้า 4 เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลเหล่าเสือโก๊ก อำเภอเมืองอุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 13 กรกฎาคม 2530 โจทก์ยกที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยเสน่หา เป็นเวลา 3 ปีมาแล้วโจทก์เริ่มมีฐานะยากจนลงประกอบกับมีอายุมากขึ้นไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ทำให้ขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้าซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต ส่วนจำเลยก็ได้ให้บุคคลอื่นเข้าเช่าทำนาในที่ดินดังกล่าวตลอดมา มีรายได้ค่าเช่าปีละประมาณ 20,000 บาท จำเลยอยู่ในฐานะที่สามารถจะให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์ได้โจทก์ได้ขออาหารและเสื้อผ้าซึ่งเป็นสิ่งของจำเป็น แต่จำเลยบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของดังกล่าวเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ถือว่าจำเลยประพฤติเนรคุณโจทก์ขอให้ศาลมีคำพิพากษาถอนคืนการให้ และให้ที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวตกเป็นของโจทก์ตามเดิม โดยให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินสองแปลงดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า…”ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า จำเลยประพฤติเนรคุณโดยบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์ผู้ให้ ในเวลาที่โจทก์ยากไร้และจำเลยยังสามารถจะให้ได้หรือไม่เห็นว่า โจทก์ชราภาพมากแล้วมีค่าใช้จ่ายน้อยโดยเป็นค่าอาหารเพียงเดือนละ 100 บาท ค่าเสื้อผ้าปีละ 200 บาท โจทก์มีบุตรหลายคนช่วยกันอุปการะเลี้ยงดูไม่เดือดร้อน ตามสถานภาพของโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าเป็นคนยากไร้ ทั้งจำเลยเองก็เป็นลูกจ้างอยู่ที่กรุงเทพมหานครได้เงินเดือนเพียง 600 บาท มีบุตร 1 คน ต้องเลี้ยงดูที่ดินที่ได้รับการยกให้จำเลยก็มอบให้นายกุลทำกิน โดยนายกุลได้นำข้าวที่ได้แบ่งไปเลี้ยงดูโจทก์ด้วย แม้จำเลยจะเป็นบุตรมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ แต่มิได้อยู่เลี้ยงดูโดยไปทำงานที่กรุงเทพมหานครปล่อยให้พี่น้องคนอื่นเลี้ยงดูแทน ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติเนรคุณอันจะเป็นเหตุให้ถอนคืนการให้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(3) ดังที่โจทก์กล่าวอ้างศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share