คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3539/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่า ฟ้องโจทก์และทางนำสืบของโจทก์ขาดสาระสำคัญตามมาตรา 34 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 กล่าวคือมิได้บรรยายฟ้องและนำสืบว่าโจทก์ได้ส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าต่อจำเลย และได้ส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวต่อประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลมติของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลที่ให้เลิกการเช่านาโดยยกเว้นไม่ปฏิบัติตามมาตรา 34 วรรคแรก แห่งกฎหมายดังกล่าวเป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก แม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่เห็นสมควรวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยผู้เช่ารื้อบ้านออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่า ที่ดินที่เช่าเดิมเป็นของจำเลย จำเลยได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์ และเมื่อปี 2528 จำเลยขอซื้อที่ดินคืนโจทก์ไม่ยอมได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลเนินกว้าว ที่ประชุมมีมติให้สัญญาเช่าเลิกกัน และให้จำเลยออกไปจากที่ดินโจทก์ มติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลบังคับจำเลยเนื่องจากมิได้มีการบันทึกถึงเรื่องที่จำเลยเสนอขอซื้อที่ดินคืน และจำเลยก็มิได้บอกเลิกสัญญาเช่าต่อโจทก์ สัญญาเช่ายังไม่ครบ 6 ปี ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 จำเลยยังคงมีสิทธิอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไป ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านเลขที่ 5ของจำเลยออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์และทางนำสืบของโจทก์ขาดสาระสำคัญตามมาตรา 34 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 กล่าวคือ มิได้บรรยายฟ้องและนำสืบว่าโจทก์ได้ส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าต่อจำเลย และได้ส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวต่อประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบล มติของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลเนินกว้าวที่ให้เลิกการเช่านาโดยยกเว้นไม่ปฏิบัติตามมาตรา 34 วรรคแรก แห่งกฎหมายดังกล่าวเป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน เห็นว่าข้อฎีกาดังกล่าวจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก แม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาก็ไม่เห็นสมควรวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกา

Share