แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นคำร้องว่า ทนายจำเลยออกจากสำนักงานทนายความเดิมไปแล้ว และสำนักงานดังกล่าวได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น มิใช่สำนักงานที่เจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทั้งเป็นการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก่อนที่จะมีการปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ หากข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องดังกล่าว ย่อมถือไม่ได้ว่าการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้จำเลยเป็นไปโดยชอบศาลชั้นต้นต้องไต่สวนให้ได้ความว่าเจ้าพนักงานศาลส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยโดยชอบแล้วหรือไม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากสินค้าที่จำเลยรับจ้างขนส่งสูญหาย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 194,726.40 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย แต่ในวันนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังฝ่ายเดียว โดยถือว่าจำเลยทราบการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์แล้ว
จำเลยยื่นคำร้องว่า ทนายจำเลยได้ออกจากสำนักงานทนายความไปตั้งแต่ปี 2528 และสำนักงานทนายความได้ย้ายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน2530 จำเลยเพิ่งทราบว่าได้มีการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์โดยมาสอบถามที่ศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2531 จึงทราบว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน2531 โดยจำเลยไม่เคยทราบนัดมาก่อน ขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งว่า การปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทราบเป็นไปโดยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงานการเดินหมายของเจ้าพนักงานศาลลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2531 ว่า เจ้าพนักงานศาลได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปส่งที่บ้านเลขที่ 297ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ไม่พบนายวรธรรม (ทนายจำเลย) พบชายอายุ 36 ปี แจ้งว่านายวรธรรมย้ายออกจากบ้านดังกล่าวไปนานแล้ว และไม่ยอมรับหมาย จึงปิดหมายตามคำสั่งศาล เห็นว่า การที่จำเลยยื่นคำร้องว่าทนายจำเลยออกจากสำนักงานทนายความเดิมไปแล้ว และสำนักงานดังกล่าวได้ย้ายไปอยู่ที่เลขที่ 64/1 ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร มิใช่สำนักงานที่เจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทั้งเป็นการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก่อนที่จะมีการปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์นั้น หากข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องของจำเลยดังกล่าว กรณีย่อมถือไม่ได้ว่าการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้จำเลยเป็นไปโดยชอบ ศาลชั้นต้นสมควรที่จะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความว่า เจ้าพนักงานศาลส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้จำเลยโดยชอบแล้วหรือไม่
พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี