คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ในวันที่ 24สิงหาคม 2533 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องอ้างว่าล่วงเลยกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้วจำเลยยื่นคำร้องลงวันที่ 3 กันยายน 2533โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ซึ่งตามกฎหมายไม่จำต้องกระทำการปฏิบัติของจำเลยดังกล่าวจึงไม่มีผลตามกฎหมาย วันที่ 2 ตุลาคม 2533 จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ เป็นการยื่นอุทธรณ์คำสั่งเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 ศาลชั้นต้นรับเป็นอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือว่าฎีกาของจำเลยเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2533 ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2533จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
ต่อมาวันที่ 3 กันยายน 2533 จำเลยยื่นคำร้องโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นและขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำหนดระยะเวลาให้จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับเป็นคำโต้แย้งคำสั่งที่ขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์นั้น ไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะสั่งให้ได้ให้ยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2533 ซึ่งครบกำหนดอุทธรณ์ในวันที่ 20 สิงหาคม2533 (วันที่ 19 สิงหาคม 2533 เป็นวันอาทิตย์) จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ในวันที่ 24 สิงหาคม 2533 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าวอ้างว่าล่วงเลยกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้วดังนี้เห็นว่า หากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวก็จะต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 คือต้องยื่นภายในวันที่ 24 กันยายน 2533 แต่ปรากฏว่าจำเลยกลับยื่นคำร้องลงวันที่ 3 กันยายน 2533 โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์แล้วต่อมาในวันที่2 ตุลาคม 2533 จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ แต่การที่จำเลยยื่นคำร้องโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นเป็นเรื่องที่ตามกฎหมายไม่จำต้องกระทำ การปฏิบัติของจำเลยดังกล่าวจึงหามีผลตามกฎหมายแต่อย่างใดไม่ จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ในวันที่ 2 ตุลาคม 2533 จึงเป็นการยื่นอุทธรณ์คำสั่งเมื่อพ้นกำหนด1 เดือน ตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว ที่ศาลชั้นต้นรับเป็นอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องถือว่าฎีกาของจำเลยเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกฎีกาจำเลย

Share