คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนถึงแก่กรรม ล. ผู้ตายซึ่งมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทยกที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 1 เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1ครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่า 10 ปี และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 แล้ว ที่ดินพิพาทจึงไม่ใช่ทรัพย์มรดกของ ล. ผู้ตาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 เป็นบุตรของนายสริกับนางเลี่ยม ปานเพ็ง จำเลยที่ 2 เป็นสามีของจำเลยที่ 1 นายสริถึงแก่กรรมไปก่อนแล้วเมื่อนางเลี่ยมถึงแก่กรรมมีที่ดินเป็นมรดกเนื้อที่ 8 ไร่ 13 ตารางวา จำเลยที่ 1 ได้ร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นอ้างว่าได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวจนได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382และจำเลยที่ 1 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อในโฉนดที่ดินจากนางเลี่ยมเป็นชื่อจำเลยทั้งสอง ความจริงนางเลี่ยมมิได้ยกที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ใด และจำเลยที่ 1 มิได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวโดยสงบ เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 10 ปี แต่อย่างใดขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นและเพิกถอนชื่อของจำเลยทั้งสองออกจากการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินดังกล่าว กับให้แบ่งที่ดินออกเป็น 3 ส่วน ให้โจทก์ทั้งสองคนละ 1 ส่วน หากแบ่งไม่ได้ให้นำที่ดินออกขายทอดตลาดเอาเงินที่ได้มาแบ่งแทน
จำเลยทั้งสองให้การว่า เดิมที่ดินพิพาทมีเนื้อที่ 12 ไร่13 ตารางวา นางเลี่ยมยกให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 4 ไร่ ส่วนที่เหลือ8 ไร่ 13 ตารางวา ยกให้จำเลยที่ 1 ปี พ.ศ. 2521 โจทก์ที่ 1รังวัดแบ่งแยกที่ดิน 4 ไร่ออกไปแล้ว ส่วนจำเลยที่ 1 คงครอบครองที่ดินพิพาทโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่า10 ปี เมื่อนางเลี่ยมถึงแก่กรรม จำเลยที่ 1 ร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำร้องของจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 จึงไปขอแก้ชื่อในโฉนดที่ดินจากชื่อนางเลี่ยมเป็นชื่อจำเลยทั้งสอง ที่ดินพิพาทไม่ใช่มรดกของนางเลี่ยม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ก่อนถึงแก่กรรมนางเลี่ยมผู้ตายซึ่งมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 1 เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่า 10 ปี และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว ที่ดินพิพาทจึงไม่ใช่ทรัพย์มรดกของนางเลี่ยมผู้ตาย
พิพากษายืน.

Share