แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ก. ถึงแก่ความตายแล้วหลบหนีไป บ. พยานโจทก์ เบิกความว่า พลตำรวจ ช. กับ บ. และ ป. ได้วิ่งติดตามจำเลยไปเพื่อจะจับจำเลย บ. ได้ยินเสียงปืนดังมาจากทางที่จำเลยวิ่งไปประมาณ 4-5 นัด กระสุนปืนถูกพลตำรวจ ช. ทำให้ถึงแก่ความตายข้อเท็จจริงดังกล่าวฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงพลตำรวจ ช. แม้จำเลยจะไม่ให้การรับสารภาพ พยานหลักฐานโจทก์ก็พอฟังลงโทษจำเลยได้คำรับสารภาพของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และไม่มีเหตุบรรเทาโทษอย่างอื่น กรณีไม่สมควรลดโทษให้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายกล่อม นุ้ยเอียด โดยเจตนาฆ่า นายกล่อม ถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย พลตำรวจชิน สุจริต เห็นเหตุการณ์ จึงเข้าจับกุมจำเลย อันเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ จำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงขัดขวางโดยเจตนาฆ่าเจ้าพนักงาน พลตำรวจชินถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตายทันที ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289, 91 ให้คืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288, 289, 91 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนในความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ลงโทษประหารชีวิตแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพแต่เป็นเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานโจทก์จึงไม่สมควรลดโทษให้ เมื่อความผิดกระทงหลังมีโทษประหารชีวิตแล้วจึงไม่ต้องนำเอาความผิดกระทงแรกมารวมเข้าด้วยคงให้ประหารชีวิตจำเลยของกลางคือเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ยุติจากทางนำสืบของโจทก์โดยจำเลยไม่โต้เถียงว่า ในวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้องจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงนายกล่อม นุ้ยเอียดทำให้นายกล่อมถึงแก่ความตาย แล้วจำเลยหลบหนีไป พลตำรวจชิน สุจริต กับพวกได้ติดตามจำเลยไปเพื่อจะจับกุมจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงพลตำรวจชินซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ ทำให้พลตำรวจชินถึงแก่ความตายอีก 1 คน มีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า มีเหตุสมควรที่จะลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หรือไม่ ที่จำเลยอ้างว่าในความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ โจทก์ไม่มีพยานที่เบิกความว่าเห็นจำเลยเป็นคนยิงดังนั้นที่จำเลยรับสารภาพจึงเป็นการให้ความรู้แก่ศาล อันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณานั้น เห็นว่า นายบุญช่วย ชูทิตย์ พยานโจทก์เบิกความว่า พลตำรวจชินกับนายบุญช่วยและนายประสิทธิ์ พุฒสม ได้วิ่งติดตามจำเลยไป เพื่อจะจับจำเลย นายบุญช่วยได้ยินเสียปืนดังมาจากทางที่จำเลยวิ่งไปประมาณ 4-5 นัด กระสุนปืนถูกพลตำรวจชินทำให้ถึงแก่ความตาย ข้อเท็จจริงดังกล่าวฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงพลตำรวจชินแม้จำเลยจะไม่ให้การรับสารภาพพยานหลักฐานโจทก์ก็พอฟังลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้ ดังนั้นคำรับสารภาพของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และไม่มีเหตุบรรเทาโทษอย่างอื่น กรณีไม่สมควรลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.