คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไป รับซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด เป็นการกล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เมื่อโจทก์นำสืบฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ฟ้องของโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้มีคนร้ายเข้าไปในบ้านพักอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนายสมุทร ไทยน้อย ผู้เสียหาย โดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควรแล้วลักเอารถจักรยานสองล้อ 1 คันราคา 1,400 บาท ของผู้เสียหายที่เก็บรักษาไว้ในบ้านดังกล่าวไปโดยทุจริต ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยึดรถจักรยานยนต์สองล้อของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปจากความยึดถือครอบครองของจำเลย ทั้งนี้ โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักเอาทรัพย์ หรือมิฉะนั้นจำเลยรับเอาทรัพย์ของผู้เสียหายที่ถูกลักไปไว้จากคนร้าย แล้วช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357 และนับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 (ที่ถูกมาตรา 357 วรรคแรก) จำคุกจำเลย 1 ปีส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 391/2531ของศาลชั้นต้นนั้น ไม่ปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาแล้วหรือไม่ให้ยกคำขอในส่วนนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาตามฎีกาของจำเลยเพียงปัญหาเดียวว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ จำเลยกล่าวอ้างว่าฟ้องของโจทก์กล่าวหาระบุการกระทำของจำเลยทุกอย่างตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 คือกล่าวหาว่าจำเลยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปรับซื้อรับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมนั้นเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ซึ่งในคดีนี้ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายไว้ได้กล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เมื่อโจทก์นำสืบได้ข้อเท็จจริงชัดเจนหรือพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องครบถ้วน ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว หาได้เคลือบคลุมดังจำเลยกล่าวอ้างไม่”
พิพากษายืน

Share