คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองเข้าไปสร้างรั้วไม้รวก ห้องครัวและห้องน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของโจทก์เพื่อถือการครอบครองที่ดินของโจทก์ ความผิดฐานบุกรุกจึงเกิดขึ้นและสำเร็จเมื่อจำเลยทั้งสองเข้าไปกระทำการดังกล่าว ส่วนการที่จำเลยทั้งสองยังคงครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้น ไม่เป็นความผิดต่อเนื่องเมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบยืนยันว่า จำเลยทั้งสองได้บุกรุกที่ดินพิพาท เมื่อใดกันแน่ก่อนหรือหลังวันที่โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมา และจำเลยทั้งสองนำสืบต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำการดังกล่าวมาก่อนโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งหากเป็นดังที่จำเลยทั้งสองต่อสู้ การกระทำของจำเลยทั้งสองก็ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2527 ถึงวันที่ 22พฤษภาคม 2530 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดทั้งกลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 404 บางส่วน โดยจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันสร้างรั้วไม้รวก ห้องครัวและห้องน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ทางด้านทิศตะวันออก กว้าง 1.40 เมตร ยาว 12 เมตร เพื่อถือการครอบครองเป็นของตนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์เสียหายไม่สามารถเข้าไปครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินของตนได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 362, 365
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365, 83 ลงโทษจำคุกคนละ6 เดือนและปรับคนละ 3,000 บาท จำเลยทั้งสองไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนโทษจำคุกให้รอไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันสร้างรั้วไม้รวก ห้องครัว และห้องน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ เพื่อถือการครอบครองโดยไม่สามารถที่จะอ้างกฎหมายได้ จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานบุกรุก แต่โจทก์ไม่อาจยืนยันได้ว่า จำเลยทั้งสองได้บุกรุกที่ดินพิพาทเมื่อใด กรณีอาจเป็นไปได้ว่าจำเลยทั้งสองได้บุกรุกที่ดินพิพาทก่อนที่โจทก์จะเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทดังที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ดังนั้น ความผิดฐานบุกรุกได้เกิดขึ้นและสำเร็จแล้ว เมื่อจำเลยทั้งสองได้เข้าไปกระทำการดังกล่าวส่วนการครอบครองที่ดินของจำเลยทั้งสองต่อมา เป็นผลของการบุกรุกการกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดต่อเนื่องตลอดเท่าที่จำเลยทั้งสองยังถือการครอบครองที่ดินที่บุกรุก จึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้องได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเป็นอันพึงได้ว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาจากนายเดชศักดิ์ กมลเพชร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม2527 ต่อมาวันที่ 22 พฤษภาคม 2530 โจทก์นำเจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตที่ดินพิพาท ปรากฏว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันสร้างรั้วไม้รวก ห้องครัว และห้องน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินพิพาท กว้าง1.40 เมตร ยาว 12 เมตร เพื่อถือการครอบครองที่ดินพิพาทคดีมีปัญหาว่า จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานบุกรุกตามฟ้องได้หรือไม่…
พิเคราะห์แล้วที่โจทก์ฎีกาว่า ความผิดฐานบุกรุกเป็นความผิดต่อเนื่องนั้น เห็นว่า การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปสร้างรั้วไม้รวกห้องครัวและห้องน้ำรุกล้ำเข้าไปในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของโจทก์ก็เพื่อถือการครอบครองที่ดินของโจทก์ ความผิดฐานบุกรุกจึงได้เกิดขึ้นและสำเร็จแล้วเมื่อจำเลยทั้งสองเข้าไปกระทำการดังกล่าว ส่วนการที่จำเลยทั้งสองยังคงครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้น การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดต่อเนื่องดังที่โจทก์ฎีกา ในปัญหาที่ว่าจะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานบุกรุกตามฟ้องได้หรือไม่ พยานโจทก์ที่นำสืบคงได้ความแต่เพียงว่า ก่อนนายเดชศักดิ์เจ้าของเดิมขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2527 เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตที่ดินพิพาท ยังไม่มีการรุกล้ำที่ดินกัน เมื่อโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาแล้วโจทก์ก็ไม่เคยเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทเลย จนกระทั่งวันที่ 22 พฤษภาคม 2530 หลังจากโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาแล้วสองปีเศษเจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตที่ดินพิพาท จึงทราบว่าจำเลยทั้งสองบุกรุก โดยโจทก์ไม่มีพยานมานำสืบยืนยันว่าจำเลยทั้งสองได้บุกรุกที่ดินพิพาทเมื่อใดกันแน่ ในขณะที่นายเดชศักดิ์หรือโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท เมื่อจำเลยทั้งสองนำสืบต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสองได้สร้างรั้วไม้รวก ห้องครัวและห้องน้ำมาตั้งแต่ก่อนโจทก์ซื้อที่ดินพิพาท หากเป็นดังที่จำเลยทั้งสองต่อสู้การกระทำของจำเลยทั้งสองก็ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง กรณีมีความสงสัยในเรื่องการกระทำของจำเลยทั้งสองอยู่ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสองคดีลงโทษจำเลยทั้งสองฐานบุกรุกตามฟ้องไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน

Share