คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6402/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 20ซึ่งมีบทลงโทษตามมาตรา 62 ทวิ ให้จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท ดังนั้นความผิดฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงจึงมิใช่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ดังที่จำเลยฎีกา การที่ศาลชั้นต้นวางโทษให้จำคุก 6 เดือน จึงมิได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้และเมื่อนำโทษจำคุก 6 เดือน ฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงในฤดูปลาวางไข่มารวมเข้าด้วยกันแล้วจึงเป็นจำคุก 1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้วศาลชั้นต้นคง จำคุกจำเลย 6 เดือน จึงเป็นการวางโทษและคำนวณการลงโทษจำเลยถูกต้อง แต่ศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยในเรื่องริบของกลางตามที่โจทก์ขอนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(9)แม้โจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงโดยใช้กระแสไฟฟ้าจุ่ม ลงไปทำอันตรายแล้วจับสัตว์และสัตว์น้ำอื่น ๆได้ปลาจำนวน 1 กิโลกรัม ในบริเวณคลองสาธารณะหมู่ที่ 5ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก อันเป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทสาธารณประโยชน์ทั้งนี้โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมประมงและมิได้กระทำเพื่อประโยชน์ของทางราชการ และจำเลยใช้กระแสไฟฟ้าเหล็กสองง่ามทำการประมง จับสัตว์น้ำในลำคลองสาธารณะดังกล่าวในฤดูปลามีไข่และใช้เครื่องมือทำการประมงมิใช่ชนิด ขนาด และวิธีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรประกาศและกำหนดไว้อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 20, 32, 60, 62 ทวิ, 65, 69 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 20, 32, 60, 62 ทวิ, 65, 69 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงจำคุก 6 เดือน และฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงในฤดูปลาวางไข่จำคุก 6 เดือนรวมจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นคำนวณการลงโทษจำเลยไม่ถูกต้อง ความจริงฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงในฤดูปลาวางไข่ จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 9 เดือนจำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก4 เดือน 15 วัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนเท่ากับเป็นการคำนวณการลงโทษจำเลยไม่ถูกต้องตามศาลชั้นต้นนั้นเห็นว่า การใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 20 มีบทลงโทษตามมาตรา 62 ทวิซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา 19 หรือมาตรา 20ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท” ดังนั้น ความผิดฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงจึงมิใช่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ดังที่จำเลยฎีกาการที่ศาลชั้นต้นวางโทษให้จำคุก 6 เดือน จึงมิได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้และเมื่อนำโทษจำคุก 6 เดือน ฐานใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมงในฤดูปลาวางไข่มารวมเข้าด้วยกันแล้วจึงเป็นจำคุก 1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 แล้วศาลชั้นต้นคงจำคุกจำเลย 6 เดือนจึงเป็นการวางโทษและคำนวณการลงโทษจำเลยถูกต้องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยในเรื่องริบของกลางตามที่โจทก์ขอนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(9)แม้โจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้”
พิพากษายืน แต่ให้ริบของกลางด้วย

Share