คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6137/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมิได้ยื่นฎีกาหรือยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาภายในกำหนดที่ศาลอนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลายื่นฎีกาแต่กลับมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาเป็นครั้งที่ 2เมื่อภายหลังจากระยะเวลายื่นฎีกาหรือระยะเวลาได้หมดสิ้นไปแล้วอีกทั้งจำเลยมิได้อ้างเหตุสุดวิสัยใด ๆไว้ด้วย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลาต่อมา และท้ายที่สุดได้มีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้ จึงไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247และเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาชอบที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาและวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5),242(1),246 และ 247

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน 400,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 400,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2537 จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีเรื่องนี้ศาลชั้นต้นได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความทั้งสองฝ่ายฟังแล้วในวันที่ 3 เมษายน 2541 ฉะนั้นระยะเวลา1 เดือน ซึ่งจำเลยที่ 1 และที่ 2 จะยื่นฎีกาได้ต้องเป็นภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2541 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 247 ประกอบประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/5 วรรคสอง ระหว่างนั้นในวันที่ 29 เมษายน 2541จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 20 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง โดยศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งอนุญาตในวันเดียวกันคือวันที่ 29 เมษายน 2541 ดังนั้นระยะเวลา 20 วัน ที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 อันจะพึงยื่นฎีกาได้ต้องเป็นภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2541 หรือหากจำเลยที่ 1และที่ 2 ยังไม่อาจยื่นฎีกา แต่ประสงค์จะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อไปอีก ก็ต้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาเสียภายในกำหนดดังกล่าวตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2มิได้ยื่นฎีกาหรือยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาภายในกำหนดดังกล่าว (วันที่ 19 พฤษภาคม 2541) โดยกลับมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาเป็นครั้งที่ 2 ใหม่ วันที่ 22 พฤษภาคม 2541 อันเป็นเวลาภายหลังจากระยะเวลาการยื่นฎีกาหรือระยะเวลาการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้หมดสิ้นไปแล้ว อีกทั้งจำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้อ้างเหตุสุดวิสัยใด ๆ ไว้ด้วยการที่ศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 1 และที่ 2ขยายระยะเวลาต่อมาก็ดี หรือท้ายที่สุดได้มีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไว้ก็ดี จึงไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 และเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาชอบที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาและวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5), 242(1), 246 และ 247
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2

Share