คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถังน้ำมันขนาด 800,000 ลิตร และ 100,000 ลิตร ก่อสร้างขึ้นติดที่ดินเป็นการถาวรใช้สำหรับเก็บสินค้าน้ำมัน เทียบได้กับอาคารเก็บสินค้าทั่ว ๆ ไป การที่ต้องสร้างเป็นรูปถังกลมก็เนื่องจากสินค้าที่เก็บเป็นของเหลวจำพวกน้ำ ดังนี้ ถือได้ว่าถังน้ำมันดังกล่าวเป็นสิ่งปลูกอย่างอื่น ๆ ตามความหมายแพ่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2475 มาตรา 3 แล้ว จึงต้องเสียภาษีโรงเรือนสำหรับถังน้ำมัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของคลังน้ำมัน จำเลยที่ ๓ ได้ประเมินเรียกเก็บภาษีโดยรวมเอาถังน้ำมันขนาด ๘๐๐,๐๐๐ ลิตร ๒ ถัง และ ๑๐๐,๐๐๐ ลิตร ๙ ถัง เข้าเป็นสิ่งปลูกสร้างให้เสียภาษีด้วย โจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้องจึงยื่นคำร้องต่อจำเลยที่ ๒ เพื่อขอให้พิจารณาการประเมินใหม่ แต่จำเลยที่ ๒ คงชี้ขาดตามที่จำเลยที่ ๓ ประเมินไว้ ซึ่งเป็นการไม่ชอบเพราะถังน้ำมันดังกล่าว มิใช่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างตามความหมายแพ่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน จึงขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดและการประเมินดังกล่าว
จำเลยให้การว่า การประเมินภาษีโรงเรือนของจำเลยที่ ๓ และคำชี้ขาดของจำเลยที่ ๒ ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๖ ในการวินิจฉัยปัญหข้อกฎหมายของโจทก์ข้างต้น ศาลฎีกาต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า ถ้าน้ำมันพิพาทขนาด ๘๐๐,๐๐๐ ลิตร และขนาด ๑๐๐,๐๐๐ ลิตร โจทก์มีไว้ใช้เป็นที่เก็บน้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด และน้ำมันโซล่า ซึ่งเป็นสินค้าของโจทก์ ถังขนาด ๘๐๐,๐๐๐ ลิตร สูงประมาณ ๑๐ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๙ เมตรเศษ ส่วนถังขนาด ๑๐๐,๐๐๐ ลิตร สูงประมาณ ๕ เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง ๔ เมตรเศษ ถังทั้งสองขนาดปรากฏตามภาพถ่าย ล.๑, ล.๒ ก่อนก่อสร้างถังพิพาทโจทก์ยื่นขออนุญาตปลูกสร้างอาคารและเสนอแบบก่อสร้างต่อจำเลยเพื่อรับใบอนุญาต การก่อสร้างต้องขุดดินให้ลึกก้นหลุมเทคอนกรีตพื้นหนา ๖ นิ้วฟุต แล้วถมทรายจมเต็มหลุม ก้นถังใช่แผ่นเหล็กขนาดกว้าง ๖ ฟุต ยาว ๑๒ ฟุต หนา ๓ ใน ๔ นิ้วฟุต เชื่อมติดกัน ผนังตัวถังใช้แผ่นเหล็กเชื่อมติดกันเป็นถังกลม ถังพิพาทมีขนาดใหญ่โตมั่นคงถาวรอยู่ในลักษณะติดตรึงกับที่ดิน
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๗๕ มาตรา ๓ บัญญัติว่า “โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ซึ่งเจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษา และซึ่งมิได้ใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรม ท่านให้งดเว้นจากบทบัญญัติแห่งภาคนี้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นไป” ตามความในมาตรานี้ โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ หากใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรมแล้ว ก็มิได้รับยกเว้นภาษี คำว่า “โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ” พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช ๒๔๗๕ มาตรา ๕ บัญญัติว่า ให้กินความถึงแพด้วย แต่ก็มิได้ให้คำจำกัดความไว้เป็นพิเศษ ในการวินิจฉัยปัญหาตามข้อฎีกาของโจทก์จึงต้องถือว่า “โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ” มีความหมายตามธรรมดาตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ถังน้ำมันพิพาทขนาด ๘๐๐,๐๐๐ ลิตร และขนาด ๑๐๐,๐๐๐ ลิตร ก่อสร้างขึ้นติดที่ดินเป็นการถาวรใช้สำหรับเก็บสินค้าน้ำมัน เทียบได้กับอาคารเก็บสินค้าทั่ว ๆ ไป การที่ต้องสร้างเป็นรูปถังกลมก็เนื่องจากสินค้าที่เก็บเป็นของเหลวจำพวกน้ำ ศาลฎีกาเห็นว่าถังน้ำมันพิพาทเป็นสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๗๕ มาตรา ๓ แล้ว การเรียกชื่อสิ่งปลูกสร้างว่าเป็นถังตามรูปร่างลักษณะหรือความเคยชิน หาทำให้สิ่งปลูกสร้างนั้นกลายสภาพมาเป็นถังไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่าไม่ว่าถังขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กต่างก็เป็นถังน้ำมันเหมือนกัน เมื่อจำเลยไม่ถือว่าถังขนาดเล็กเป็นโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง ก็ไม่ควรถือว่าถังขนาดใหญ่เป็นโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น ข้อนี้ถังขนาดใหญ่ดังเช่นถังพิพาทและถังขนาดเล็กมีสภาพผิดกันมาก ถังขนาดใหญ่ต้องดำเนินการก่อสร้างขึ้นติดตรึงกับที่ดินเป็นสิ่งปลูกสร้างลักษณะถาวร ส่วนถังขนาดเล็กเป็นของขนเคลื่อนจากที่แห่งหนึ่งไปแห่งอื่นได้ ถังขนาดใหญ่และถังขนาดเล็กจึงหาได้มีลักษณะเป็นถังเหมือนกันดังข้อฎีกาของโจทก์ไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าโจทก์ต้องเสียภาษีโรงเรือนสำหรับถังพิพาทชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share