คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5210/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอแบ่งสินสมรส คิดเป็นเนื้อที่ดิน7 ไร่เศษที่ศาลชั้นต้น ขณะคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าที่ดินทั้งสามแปลงเป็นสินสมรส จำเลยนำไปขายขอให้บังคับจำเลยแบ่งเงินค่าที่ดินส่วนของโจทก์ให้โจทก์ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้กับคดีก่อน จึงมีสภาพแห่งข้อหาประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย และคำขอบังคับอย่างเดียวกันฟ้อง โจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายต่อมาโจทก์จำเลยได้จดทะเบียนหย่าขาดจากกัน ระหว่างอยู่กินด้วยกันได้ร่วมกันซื้อที่ดินจำนวน 3 แปลง เป็นที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาจำเลยนำที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าวซึ่งเป็นสินสมรสไปขายรวมเป็นเงิน600,000 บาท โดยที่โจทก์ไม่ทราบเรื่อง โจทก์เพิ่งมาทราบภายหลังจากที่หย่าขาดจากกันแล้ว จึงขอแบ่งเงินค่าที่ดินส่วนของโจทก์จำนวน300,000 บาท แต่จำเลยไม่ยอมแบ่งให้ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 300,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้อนกับคดีหมายเลขดำที่ 569/2535 ของศาลจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งในคดีดังกล่าวโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยขอแบ่งสินสมรสอันเนื่องมาจากการจดทะเบียนหย่าเช่นเดียวกับคดีนี้ โจทก์จึงชอบที่จะฟ้องไปในคราวเดียวกัน และการขายที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวโจทก์ก็เป็นผู้ดำเนินการเอง จำเลยไม่เคยได้รับเงินค่าที่ดินจากผู้ซื้อ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา โจทก์ถึงแก่กรรม นายดิเรก วงศ์สมบูรณ์ทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยประการแรกว่าฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้อนกับคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 569/2535 ของศาลจังหวัดปราจีนบุรีหรือไม่ ข้อเท็จจริงยุติตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอแบ่งสินสมรส คิดเป็นเนื้อที่ดิน7 ไร่เศษ ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีขณะคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดปราจีนบุรี โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าที่ดินทั้งสามแปลงเป็นสินสมรส จำเลยนำไปขาย ขอให้บังคับจำเลยแบ่งค่าที่ดินส่วนของโจทก์ให้โจทก์ ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้กับคดีก่อน จึงมีสภาพแห่งข้อหาประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย และคำขอบังคับอย่าเดียวกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้อนกับคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 569/2535 ของศาลจังหวัดปราจีนบุรี ต้องห้ามมิให้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง (1)
พิพากษายืน

Share