แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองได้แต่งตั้ง ธ. เป็นทนายความให้ดำเนินคดีแทน ธ. ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี และลงลายมือชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ แต่ในวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาศาลจึงพิจารณาพิพากษาคดีโจทก์ ไปฝ่ายเดียว จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ พิจารณาใหม่ไว้ในคำให้การแล้ว การที่ธ. ป่วย ด้วยโรคท้องเดินไม่สามารถไปศาลได้นั้นก็เพียงแต่มีอาการ อ่อนเพลียแต่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้ การป่วย ของ ธ. ไม่ร้ายแรงถึงขนาดจะไปศาลไม่ได้หรือจนไม่สามารถที่จะมอบให้ผู้อื่นไปขอเลื่อนคดีแทน เมื่อเป็นเช่นนี้แม้ธ. ไม่ได้แจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทั้งสองทราบ และในวันนัดธ. สามารถติดต่อกับจำเลยทั้งสองได้ก็ถือได้ว่าเป็นการขาดนัด พิจารณาโดยจงใจที่ไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองฟ้องให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การต่อสู้คดีศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยทั้งสองไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ โดยอ้างว่าจำเลยทั้งสองมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เนื่องจากนายธรรมรส สุวรรณวงศ์ทนายความของจำเลยทั้งสองไม่ได้แจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้ทราบจำเลยทั้งสองไม่สามารถติดต่อนายธรรมรสได้เพราะนายธรรมรสย้ายภูมิลำเนา โดยมิได้แจ้งที่อยู่ใหม่ให้จำเลยทั้งสองทราบ และในวันนัดสืบพยานโจทก์นายธรรมรสป่วยได้พยายามติดต่อจำเลยทั้งสองทางโทรศัพท์แล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ หากจำเลยทั้งสองได้นำพยานหลักฐานมาสืบก็จะชนะคดี เพราะมูลหนี้ตามฟ้องโจทก์เป็นมูลหนี้อันมิชอบด้วยกฎหมายและโจทก์ไม่ฟ้องคดีภายใน 1 ปี คดีจึงขาดอายุความ ขอให้มีคำสั่งให้พิจารณาใหม่
โจทก์ทั้งสองคัดค้านว่า จำเลยทั้งสองทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วแต่จงใจขาดนัดพิจารณาสัญญาประนีประนอมยอมความตามฟ้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่เพื่อประวิงการชำระหนี้ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่าจำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดพิจารณาหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสองได้แต่งตั้งนายธรรมรส สุวรรณวงศ์ เป็นทนายความให้ดำเนินคดีแทนนายธรรมรสยื่นคำให้การต่อสู้เมื่อวันที่ 20พฤศจิกายน 2533 และศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 20 ธันวาคม2533 นายธรรมรสได้ลงลายมือชื่อทราบนัดไว้ในคำให้การดังกล่าว จึงเป็นการทราบนัดโดยชอบแล้ว การที่จำเลยทั้งสองนำสืบอ้างว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์ นายธรรมรสป่วยด้วยโรคท้องเดินไม่สามารถไปศาล ได้นั้นก็ได้ความจากคำเบิกความของนายธรรมรสเองว่า เพียงแต่มีอาการอ่อนเพลียแต่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้ การป่วยของนายธรรมรสจึงไม่ร้ายแรงถึงขนาดจะไปศาลไม่ได้ หรือจนไม่สามารถที่จะมอบให้ผู้อื่น ไปขอเลื่อนคดีแทน เมื่อเป็นเช่นนี้แม้จะได้ความว่านายธรรมรสไม่ได้แจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทั้งสองทราบ และในวันนัดนายธรรมรสไม่สามารถติดต่อกับจำเลยทั้งสองได้ก็ถือได้แล้วว่าเป็นการขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องนั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน