คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2536

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามที่โจทก์ร้องขอต่อมาจำเลยนำผู้ร้องมาทำสัญญาค้ำประกันโดยนำโฉนดที่ดินวางไว้ต่อศาล โจทก์จึงได้ถอนคำขอใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาไป ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดย ป. บุตรชายจำเลยนำสมุดเงินฝากธนาคารออมสินมาวางประกัน การที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดย ป.นำสมุดฝากเงินธนาคารออมสิน วางเงิน ประกันแทนหลักทรัพย์ที่ผู้ร้องวางประกันไว้ แสดงว่าในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้เปลี่ยนหลักทรัพย์ ในการค้ำประกันจากของผู้ร้องมาเป็นของ ป.สัญญาค้ำประกันที่ผู้ร้องที่ไว้ต่อศาลจึงสิ้นสุดลง ผู้ร้องมีสิทธิรับ โฉนดที่ดินวางประกันไว้คืน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ระหว่างการพิจารณา ของศาลชั้นต้น โจทก์ขอใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา จำเลยจึงให้นางฟู ฤทธิ์งาม ผู้ร้องนำโฉนดที่ดินเลขที่ 89 วางประกันต่อศาล ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 295,950 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2528จนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดยนายประสิทธิ์ ฤทธิ์งาม บุตรชายจำเลยนำสมุดเงินฝากธนาคารออมสินเงิน 410,000 บาท วางประกัน ผู้ร้องขอรับโฉนดที่ดินคืนเห็นว่าการที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดยนายประสิทธิ์ฤทธิ์งาม บุตรชายจำเลยนำสมุดฝากเงินธนาคารออมสินจำนวนเงิน410,000 บาท วางเป็นประกันแทนหลักทรัพย์ที่ผู้ร้องวางประกันไว้แสดงว่าในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้เปลี่ยนหลักทรัพย์ในการค้ำประกันจากของผู้ร้องมาเป็นของนายประสิทธิ์แล้ว สัญญาค้ำประกันที่ผู้ร้องทำไว้ต่อศาลจึงสิ้นสุดลง ผู้ร้องมีสิทธิรับโฉนดที่ดินเลขที่ 89แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่ผู้ร้องวางประกันไว้คืน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน

Share