คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3276/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำแถลงของโจทก์ที่ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเลื่อนการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 จากกำหนดเดิมออกไปเพื่อที่โจทก์จะได้ไปหาผู้อื่นมาซื้อทรัพย์ให้ได้ราคาสูงไม่ใช่หนังสือแจ้งว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตกลงงดการบังคับคดีไว้ชั่วระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือภายในเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(3)เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่จำต้องงดการบังคับคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2532ปรากฏว่าธนาคารกรุงไทย จำกัด เจ้าหนี้ผู้รับจำนองเป็นผู้ซื้อทอดตลาดได้ในราคา 3,000,000 บาท
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด
ธนาคารกรุงไทย จำกัด ผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดได้ยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ยกคำร้องของโจทก์เสีย
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า โจทก์ขอเลื่อนการขายทอดตลาดออกไปก่อนกำหนดแล้ว ย่อมเป็นการแสดงเจตนาว่าโจทก์ประสงค์ที่จะเลื่อนการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยออกไป ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าโจทก์ยังหาผู้ซื้อที่จะให้ราคาสูงสุดเพื่อคุ้มกับจำนวนหนี้ยังไม่ได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องงดการบังคับคดี การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2532 จึงเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(3) นั้นเห็นว่า คำแถลงของโจทก์ที่ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเลื่อนการขายทอดตลาดทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลยที่ 2) จากกำหนดเดิมวันที่ 13 มกราคม 2532 ไปขายวันที่ 9 มีนาคม 2532 เพื่อที่โจทก์จะได้ไปหาผู้อื่นมาซื้อทรัพย์ให้ได้ราคาสูงไม่ใช่หนังสือแจ้งว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตกลงงดการบังคับคดีไว้ชั่วระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือภายในเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(3)เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงหาจำต้องงดการบังคับคดี ดังที่โจทก์อ้าง”
พิพากษายืน

Share