คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ในฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและชิดท้ายรถที่จำเลยที่ 1 ขับนำอยู่ทางด้านขวา ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยที่ 2 ไม่ลดความเร็วของรถเมื่อใกล้ทางร่วมทางแยกศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงเรื่องทางร่วมทางแยกซึ่งเป็นข้อเท็จจริงนอกเหนือคำฟ้องมาลงโทษจำเลยที่ 2 ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย โดยบรรยายว่าจำเลยที่ 2 ขับรถตามไปทางด้านซ้ายมือของรถจำเลยที่ 2 ด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและชิดท้ายรถจำเลยที่ 1 โดยไม่เว้นระยะให้ห่างพอสมควรจำเลยที่ 1 ขับรถเลี้ยวซ้ายตัดหน้ารถจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 หยุดรถไม่ทันเป็นเหตุให้รถจำเลยที่ 2 ชนมุมซ้ายของกระบะท้ายรถของจำเลยที่ 1 ผู้เสียหายซึ่งนั่งไปในรถจำเลยที่ 2 ได้รับอันตรายแก่กายนอกจากนี้โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานใช้รถซึ่งยังไม่ได้เสียภาษีประจำปีวิ่งบนถนนสาธารณะ หลบหนี้ไม่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และรับสารภาพในข้อหาอื่น จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6, 59(น่าเป็นมาตรา 60) ปรับ 1,000 บาท และมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160 ปรับ 1,000 บาท รวมเป็น2,000 บาท จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ปรับ 1,000 บาท นอกจากนี้จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 157 อันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 อันเป็นบทหนัก ปรับคนละ 500 บาท รวมแล้วปรับจำเลยที่ 1, 1,500 บาท ปรับจำเลยที่ 2, 500 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า “โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 2ไม่ลดความเร็วของรถยนต์เมื่อใกล้ทางร่วมทางแยกนั้น เมื่อพิจารณาตามคำฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่าคำฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าจำเลยที่ 2ไม่ลดความเร็วของรถยนต์เมื่อใกล้ทางร่วมทางแยกไว้เลย ข้อเท็จจริงเรื่องทางร่วมทางแยกตามฎีกาของโจทก์ จึงเป็นข้อเท็จจริงนอกเหนือจากคำฟ้อง จะรับฟังลงโทษจำเลยที่ 2 หาได้ไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน”

Share