คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4865/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้รับการยกให้ที่ดินจากมารดาก่อนสมรสกับผู้ร้องที่ดินดังกล่าวจึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1471(1) ผู้ร้องปลูกบ้านลงในที่ดินดังกล่าวโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยซึ่งเป็นสามี แสดงว่าผู้ร้องอาศัยสิทธิของจำเลย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมพาบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์แต่ไม่มีการรื้อถอนภายในกำหนดโจทก์ขอให้ออกหมายบังคับคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของบ้านซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่จำเลยขายให้โจทก์ ผู้ร้องปลูกสร้างบ้านดังกล่าวโดยได้รับความยินยอมจากจำเลยซึ่งเป็นสามีผู้ร้องจำเลยไม่มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาล เพราะบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องมิใช่บริวารของจำเลยขอให้ยกเลิกหมายบังคับคดี
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 26599 เดิมเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 2460 จำเลยได้รับการยกให้มาจากมารดาก่อนสมรสกับผู้ร้อง จึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1471(1) ผู้ร้องปลูกบ้านเลขที่ 8 ลงในที่ดินดังกล่าวโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยซึ่งเป็นสามี แสดงว่าผู้ร้องอาศัยสิทธิของจำเลย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย เมื่อโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยจะต้องออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 26599 ของโจทก์ด้วย
พิพากษายืน

Share