คำสั่งคำร้องที่ 2971/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา มีเหตุผลที่จะชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 91)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีตามบัญชีของจำเลย หมาย จ.7 ที่มีอยู่ในวันที่ 30 มิถุนายน2524 จำนวน 110,245.57 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยทบต้นในอัตราร้อยละ18 ต่อปี คิดตามประเพณีการค้าของธนาคารพาณิชย์ในยอดเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2524 ถึงวันที่ 21 มกราคม 2526 อันเป็นวันสุดท้ายที่จะคิดดอกเบี้ยทบต้นในอัตราดังกล่าวเอากับจำเลยได้เมื่อคิดได้เป็นยอดเงินเท่าใดแล้วให้ถือเป็นต้นเงินต่อไปสำหรับคิดดอกเบี้ยทบต้นในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี คิดตามประเพณีการค้าของธนาคารพาณิชย์ในยอดเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์2526 ถึงวันที่ 26 เมษายน 2528 ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ได้ตัดทอนบัญชีกับจำเลย อันเป็นวันสุดท้ายที่จะคิดดอกเบี้ยทบต้นในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี เอากับจำเลยได้ และเมื่อได้เป็นยอดเงินเท่าใดแล้ว ให้ถือเป็นต้นเงินต่อไปสำหรับคิดดอกเบี้ยไม่ทบต้นในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปีต่อไปนับตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2528 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากไม่ชำระ ให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ หากไม่พอชำระหนี้ ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 85,84)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ แต่จำเลยไม่แจ้งราคาทรัพย์สินที่จำนองว่าพอชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ ศาลชั้นต้นถือว่า จำเลยไม่ติดใจทุเลาการบังคับต่อไปและมีคำสั่งหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์แล้ว (อันดับ 61,63,67)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ชั้นอุทธรณ์จำเลยเคยขอทุเลาการบังคับ เมื่อศาลอุทธรณ์อนุญาตแล้ว จำเลยก็ไม่ติดต่อแจ้งราคาที่ดินที่จำนองและไม่ติดใจขอทุเลาการบังคับต่อไป ฉะนั้นจึงไม่สมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง

Share