คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3302/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นนิติบุคคลตาม พระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501ลูกจ้างจำเลยได้ขับรถยนต์โดยสารในทางการที่จ้างของจำเลยโดยความประมาทชนเสาไฟฟ้าคอนกรีตของโจทก์ชำรุดเสียหาย ในการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าโจทก์ต้องใช้ยานพาหนะเครื่องมือกล และคนงานวันละ16 คน คิดเป็นเงินรวม 51,930 บาท แม้ยานพาหนะ เครื่องมือกลและคนงานเป็นของโจทก์ เมื่อจำเลยกระทำละเมิดจนเป็นเหตุต้องเปลี่ยนเสาไฟฟ้า จำเลยก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501 จำเลยเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์โดยสารหมายเลขทะเบียน 10-2952 กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2529 ลูกจ้างจำเลยในทางการที่จ้างได้ขับรถยนต์โดยสารคันดังกล่าวโดยความประมาทพุ่งชนเสาไฟฟ้าคอนกรีตของโจทก์เสียหายโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเป็นเงิน99,266.80 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งนับแต่วันทำละเมิดจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 7,445.01 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน 106,711.81 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 99,266.80 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่าเหตุแห่งการละเมิดมิได้เกิดจากลูกจ้างจำเลยเพราะมีรถจักรยานยนต์แล่นตัดหน้าจึงต้องหักหลบชนเสาไฟฟ้าของโจทก์ ค่าเสียหายไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนค่ายานพาหนะ ค่าเครื่องมือกลและค่าแรงในการซ่อมโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทน40,620.57 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 9พฤษภาคม 2529 จนกว่าชำระเสร็จ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ 99,266.80 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าโจทก์ต้องใช้ยานพาหนะ เครื่องมือกล และคนงานวันละ 16 คนต่อวัน คิดเป็นเงินรวม51,930 บาทแม้ยานพาหนะ เครื่องมือกล และคนงานเป็นของโจทก์เมื่อจำเลยกระทำละเมิดจนเป็นเหตุต้องเปลี่ยนเสาไฟฟ้า ในการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าแม้จะใช้สิ่งของและคนงานของโจทก์ การดำเนินการก็ต้องมีค่าใช้จ่าย โดยพยานโจทก์ที่เป็นช่างเทคนิคและวิศวกรเบิกความยืนยันว่าคิดค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 51,930 บาท จำเลยมิได้มีพยานใดมาสืบหักล้างให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายของโจทก์ควรจะเป็นเท่าใด ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าโจทก์ได้เสียค่าใช้จ่ายในความเสียหายส่วนนี้ 51,930บาท ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์82,570.57 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share