คำสั่งคำร้องที่ 1109/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากบริษัทกรุงเทพกิจการ จำกัด จำเลยที่ 1ได้ถูกศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2532 ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ ล. 333/2528 ระหว่าง นายธวัชกังตระกูล โจทก์ บริษัทกรุงเทพกิจการจำกัดกับพวก จำเลย และธนาคารกรุงเทพ จำกัดโจทก์ก็ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คดีนี้จนศาลแพ่งได้มีคำสั่งอนุญาตให้ ได้รับชำระหนี้แล้ว กรณีจึงไม่เป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาคดีของจำเลย ที่ 1 ในชั้นฎีกาต่อไป ขอได้โปรดมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1ด้วยโปรดอนุญาต
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3ร่วมกันชำระเงินจำนวน 57,073,626.36 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ18 ต่อปีจากต้นเงิน 54,751,560.36 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ สำหรับจำเลยที่ 4 ให้ชำระหนี้แก่โจทก์ในวงเงินจำนวน 1,000,000 บาท ในจำนวนหนี้ทั้งหมดของจำเลยที่ 1พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปี ในวงเงินดังกล่าวนับแต่วันจำนองจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นหากจำเลยทั้งสี่ชำระหนี้ดังกล่าวไม่ครบ ให้ยึดทรัพย์สินจำนองของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 มาขายทอดตลาดชำระหนี้ตามส่วนหนี้แต่ละคนต้องรับผิดหากไม่พอชำระหนี้โจทก์ ก็ให้บังคับเอาจากทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 1 มาขายทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์จนครบถ้วน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ฎีกา โดยศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยที่ 2ถึงที่ 4 ฎีกาอย่างคนอนาถาโดยเสียค่าธรรมเนียมศาลบางส่วน สำหรับจำเลยที่ 1 ไม่อนุญาต (สำนวนตอน 1 อันดับ 216,213, สำนวนตอน 2อันดับ 15)
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถาศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งใหม่เสร็จแล้วส่งคืนศาลฎีกา (สำนวนตอน 2 อันดับ 56)
คดีอยู่ระหว่างที่ศาลชั้นต้นกำลังไต่สวนคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของจำเลยที่ 1 ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (สำนวนตอน 2อันดับ 74)

คำสั่ง
อนุญาตจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบความศาลฎีกา

Share