แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการร้านจำเลยที่ 1 จึงมีฐานะเป็นเพียงผู้กระทำกิจการร้านค้าแทนจำเลยที่ 1 ไม่ใช่คู่สัญญาซื้อขายกับโจทก์การที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาซื้อขาย จำเลยที่ 2 ก็ไม่ต้องร่วมรับผิดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ตามฟ้องได้ปัญหานี้แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้ให้การต่อสู้และไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน และศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2529 โจทก์ได้นำเงินจำนวน 56,205 บาท ไปขอซื้อบุหรี่หลายยี่ห้อจากร้านจำเลยที่ 1และโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่พนักงานของจำเลยที่ 1 เรียบร้อยแล้วแต่พนักงานของร้านจำเลยที่ 1 ไม่ยอมส่งมอบบุหรี่ โจทก์จึงไปติดต่อกับจำเลยที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานลูกจ้างในร้านของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ไม่ตกลงอ้างว่าเงินดังกล่าวได้หักกลบลบหนี้นายณรงค์ สินสายควร ซึ่งเป็นหนี้จำเลยที่ 1 อยู่ โดยจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะกระทำเช่นนั้นขอให้บังคับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 56,205 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2529นายณรงค์ สินสายควร ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของจำเลยที่ 1 ได้นำเงินมาชำระหนี้ค่าบุหรี่จำนวน 98,282.22 บาท ส่วนโจทก์นั้นจำเลยทั้งสองไม่เคยผูกพันทางการค้าขายบุหรี่ตามฟ้องเลย โจทก์ไม่ได้ติดต่อซื้อบุหรี่จากจำเลย จึงไม่มีเหตุที่จำเลยทั้งสองจะต้องคืนเงินให้โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน56,205 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2529เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า นางสาวจรัสศรี เจ้าหน้าที่การเงินของจำเลยที่ 1 รับเงินค่าซื้อบุหรี่จากโจทก์แล้วไม่สามารถส่งมอบบุหรี่ให้โจทก์ได้ จำเลยที่ 1 จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาต้องคืนเงินค่าซื้อบุหรี่พร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์ แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการร้านจำเลยที่ 1 จึงมีฐานะเป็นเพียงผู้กระทำกิจการร้านค้าแทนจำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่คู่สัญญาซื้อขายกับโจทก์ การที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาซื้อขาย จำเลยที่ 2 ก็ไม่ต้องร่วมรับผิดตามสัญญาซื้อขายด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ตามฟ้องได้ ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยที่ 2จะไม่ได้ให้การต่อสู้และไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยที่ 2ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2