แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยตักเฮโรอีนออกจากถุงพลาสติกบรรจุลงไปในหลอดพลาสติกจำนวน 161 หลอด คำนวณปริมาณสุทธิ 176.16 กรัม ถือได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 การที่จำเลยมีเฮโรอีนบางส่วนที่บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกจำนวน 161 หลอดดังกล่าวไว้ในครอบครองขณะถูกจับกุม ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมที่จะนำออกจำหน่ายจำเลยจึงมีความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่า 100 กรัมด้วย แต่เมื่อการกระทำผิดทั้งสองฐานเกิดจากเฮโรอีนจำนวนเดียวกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ปัญหาว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวหรือความผิดหลายกรรมนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15, 65 วรรคสอง, 66 วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย วางโทษจำคุกตลอดชีวิต ความผิดฐานผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย วางโทษประหารชีวิต เมื่อรวมโทษทั้งสองกระทงแล้วคงให้ประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…การที่จำเลยมีเฮโรอีนบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกจำนวนครึ่งถุง น้ำหนักสุทธิ 132 กรัม คำนวณเป็นปริมาณสุทธิหนัก 113.13 กรัม และเฮโรอีนบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกเบอร์ 5จำนวน 161 หลอด คำนวณเป็นปริมาณสุทธิหนัก 176.16 กรัม รวมคำนวณเป็นปริมาณสุทธิหนัก 289.29 กรัม นั้น เห็นว่า จำเลยมีเฮโรอีนบางส่วนบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกเบอร์ 5 จำนวน 161 หลอด ซึ่งอยู่ในสภาพที่พร้อมจะนำออกจำหน่าย จำเลยจึงมีความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่า 100 กรัม และการที่ปากถุงพลาสติกตราสิงโตคู่ซึ่งบรรจุเฮโรอีนจำนวนครึ่งถุงมีรอยตัด ปากถุงส่วนที่ตัดออกมีคราบผงสีขาวติดอยู่แสดงว่าจำเลยได้ตัดปากถุงแล้วตักเฮโรอีนออกจากถุงบรรจุลงไปในหลอดพลาสติกเบอร์ 5 แล้วจำนวน161 หลอด พฤติการณ์ดังกล่าวมานี้ถือได้ว่า จำเลยได้ผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แล้ว จำเลยย่อมมีความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่เมื่อเฮโรอีนดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันกับเฮโรอีนที่จำเลยทั้งสองกับพวกมีไว้เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในปัญหานี้ศาลฎีกาก็ยกขึ้นแก้ไขให้ถูกต้องได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 65 วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิตจำเลย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์