แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 30 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินที่ชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลคืน เมื่อราคาสินค้าที่โจทก์ซื้อและสำแดงในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าของโจทก์เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดการประเมินของจำเลยที่กำหนดราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจึงเป็นการไม่ชอบจำเลยต้องคืนอากรขาเข้าที่เรียกเก็บไว้เกินให้แก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อกระสุนปืนยี่ห้อ “วินเชสเตอร์” ชนิดและขนาดต่าง ๆ จากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล (ฮ่องกง) จำกัดรวม 7 เที่ยวเรือ เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยอ้างว่า ราคาสินค้าโจทก์ต่ำกว่าราคาที่พึงประเมิน หากจะนำของออกต้องเพิ่มราคาเป็นตามที่กำหนด โจทก์ยอมเพิ่มราคาสินค้า กับได้ชำระเงินค่าภาษีอากรและนำของออกจากอารักขาของกรมศุลกากร ต่อมา โจทก์ได้อุทธรณ์โต้แย้งแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมโจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินของจำเลย กับให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์ 523,552 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยให้การว่าจำเลยสำแดงราคาต่ำกว่าราคาของสินค้าหรือของประเภทเดียวกันซึ่งเคยมีผู้นำเข้ามาในระยะเวลาใกล้เคียงกันและสั่งซื้อจากฮ่องกง ซึ่งเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด และเป็นราคาที่กรมศุลกากรใช้เป็นเกณฑ์ประเมิน เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยได้เพิ่มราคาสินค้าของโจทก์เป็นการถูกต้องแล้ว นอกจากนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกคืนค่าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของจำเลย ให้จำเลยคืนเงินเฉพาะอากรขาเข้าสำหรับสินค้าเที่ยวที่ 1 ถึงเที่ยวที่ 6 ตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเลขที่ 100-41933เลขที่ 110-40277 เลขที่ 071-40859 เลขที่ 061-43913 เลขที่081-41017 เลขที่ 101-41873 ส่วนสินค้าเที่ยวที่ 7 เลขที่071-41580 ให้คืนอากรขาเข้าเฉพาะกระสุนปืนแบบ X 32 SWLP จำนวน30,000 นัดเท่านั้น กับให้จำเลยใช้ค่าดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีในยอดเงินที่ต้องคืนโจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขอนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์จำเลยโดยตลอดแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกคืนภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าและขอชำระภาษีศุลกากร ภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรตรวจแบบที่ยื่นแล้วมีความเห็นให้ประเมินภาษีอากรขาเข้า ภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้น โจทก์ยอมชำระภาษีอากรดังกล่าวตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรเรียกเก็บเพิ่มไว้แล้วโต้แย้งคำสั่งไว้ ต่อมาโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อกรมศุลกากร กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าได้มีการประเมินภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลโดยเจ้าพนักงานประเมินตามประมวลรัษฎากรแล้วหากโจทก์เห็นว่าการประเมินไม่ถูกต้องอย่างไรก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์โต้แย้งภาษีอากรเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 30 มิใช่อุทธรณ์คำสั่งต่อกรมศุลกากร เมื่อโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาตามบทกฎหมายดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินที่ชำระภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลคืนจากจำเลยต่อศาลได้ คำพิพากษาฎีกาที่ 2350/2520 ระหว่างบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด โจทก์ กรมศุลกากร กับพวก จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 346/2521 ระหว่างบริษัทสังกะสีไทย จำกัดโจทก์ กรมสรรพากร จำเลย ที่โจทก์ยกขึ้นอ้างอิง ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้จึงไม่อาจนำมาเทียบเคียงกันได้ ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น”
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์จำเลยว่า การประเมินของจำเลยชอบหรือไม่ โจทก์มีนายโยธิน อนันต์ถวัลย์เลิศ หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์เป็นพยานเบิกความว่า เมื่อลูกค้าต้องการกระสุนปืน พยานได้สอบถามราคาไปยังตัวแทนจำหน่ายจากเมืองฮ่องกง ตามหนังสือสอบถามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 4, 5, 9, 10 ผู้ขายได้แจ้งราคากลับมาปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 1 ถึง 3 และแผ่นที่ 6 ถึง 8โจทก์พอใจในราคาที่ผู้ขายแจ้งมาจึงตกลงซื้อโดยโจทก์สั่งซื้อและผู้ขายทยอยส่งมาระหว่างเดือนตุลาคม 2530 ถึงเดือนกรกฎาคม 2531รวม 7 เที่ยวเรือ ผู้ขายได้ส่งใบอินวอยซ์และเอกสารเรียกเก็บเงินโดยผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด และธนาคารกรุงไทย จำกัด ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 12, 14, 15, 17, 18, 20, 21, 23, 24,26, 27 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด และธนาคารกรุงไทย จำกัดได้ออกใบเสร็จรับเงินให้ตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 13, 16, 19,22, 25, 28, 31 ร้านอื่นสั่งซื้อกระสุนปืนยี่ห้อวินเชสเตอร์ชนิดและขนาดเดียวกับที่โจทก์สั่งซื้อ ราคาใกล้เคียงกับราคาของโจทก์ ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 32 ถึง 41 ราคาที่บริษัทโอลินอินดัสเตรียล (ฮ่องกง) จำกัด ในเมืองฮ่องกงตอบมาเป็นราคาในท้องตลาด นางนิภาภรณ์ ดุลยภีระดิส พยานโจทก์ปากหนึ่งเบิกความว่า พยานเป็นลูกจ้างโจทก์ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า ลงชื่อในใบขนสินค้าขาเข้า ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า และทำหน้าที่อุทธรณ์ต่อกรมศุลกากรพยานกรอกราคาสินค้าตามที่ปรากฏในใบอินวอยซ์ แต่กรมศุลกากรไม่ยอมรับราคาที่ยื่นแจ้งว่าราคาต่ำกว่าราคาประเมินที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้ประเมินราคาใหม่ ปรากฏตามตัวอักษรสีแดงในเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 3 ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้พยานไม่ทราบว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดหรือไม่ พยานได้แจ้งให้โจทก์ทราบ โจทก์ให้ทำตามที่กรมศุลกากรแจ้ง ฝ่ายจำเลยมีว่าที่ร้อยตำรวจตรีธีระพงศ์ เวชวิทยาขลัง นางสาวอาทิตยาจงรุ่งเรือง นางอนงค์ลักษณ์ รัชตวาสน์ เจ้าหน้าที่ผู้ประเมินราคาสินค้าตามใบขนสินค้าและแบบแสดงรายการการค้าของโจทก์ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 2, 3, 8, 9, 14, 15, 20, 21, 27, 28, 31, 32,37 ถึง 39, 46 ถึง 48 เอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 2 ถึง 6 และ 8 ถึง 12และเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 14, 15, 20, 21, 27, 28, 37 ถึง 39ตามลำดับ เป็นพยานเบิกความว่า ราคาสินค้าที่โจทก์สำแดงในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้ารวม 7 เที่ยวเรือนั้นต่ำกว่าราคาซึ่งผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้า พยานไม่พอใจราคาจึงได้ประเมินราคาเพิ่มโดยเอามาจากราคาที่ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าจากผู้ขายในเมืองฮ่องกงเหมือนกันซึ่งกรมศุลกากรใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมิน ว่าที่ร้อยตำรวจตรีธีระพงศ์ประเมินราคาตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าของโจทก์ เอกสารหมายล.1 แผ่นที่ 31, 32 จำนวน 1 ใบขน คือสินค้าเที่ยวที่ 6 ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 101-41873 มี 2 รายการ รายการที่ 1 เป็นกระสุนแบบX 38 A 1 p จำนวน 25,000 นัด ราคา 137 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัดราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 235.40 เหรียญสหรัฐต่อ1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนปราการซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัด เมืองฮ่องกงจำนวน 1,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2527 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 71 รายการที่ 2 เป็นกระสุนแบบ X 38 ASHP จำนวน 5,000 นัด ราคา 183.40เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น262 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดสมประสงค์และเพื่อนซื้อมาจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน 6,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 8 เมษายน2531 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 72 นางสาวอาทิตยาประเมินราคาตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 2-6 และ 8-12 จำนวน 2 ใบขน ใบขนที่ 1คือสินค้าเที่ยวที่ 1 ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 100-41933 มี 1รายการ เป็นกระสุนปืนขนาด WS 12 POOSG จำนวน 20,000 นัด ราคา170 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 251.07 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อมาจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน 10,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 29 กันยายน2529 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 65 ใบขนที่ 2 คือสินค้าเที่ยวที่ 2ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 110-40277 มี 4 รายการ รายการที่ 1 เป็นกระสุนแบบ X 32 AP จำนวน 14,000 นัด ราคา 137.80 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 210.90เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดมานิตย์ยนต์ซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัดเมืองฮ่องกง จำนวน 4,500 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกันนำเข้ามาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2527 ตาม เอกสารหมายล.1 แผ่นที่ 68 รายการที่ 2 เป็นกระสุนปืนแบบ X 38 S1P จำนวน28,000 นัด ราคา 119.10 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ.ประเมินราคาเพิ่มเป็น 199.70 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคาเอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน 3,800 นัดซึ่งเป็น ชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่8 มิถุนายน 2527 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 69 รายการที่ 3เป็นกระสุนปืนแบบ X 38 A1P จำนวน 14,000 นัด ราคา 148.30 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 235.40เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัดเมืองฮ่องกง จำนวน 1,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2527 ตามเอกสารหมายล.1 แผ่นที่ 69 รายการที่ 4 เป็นกระสุนปืนแบบ X 22 WMR จำนวน84,000 นัด ราคา 60.34 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ.ประเมินราคาเพิ่มเป็น 83.80 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคาเอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนสองพี่น้องซื้อมาจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน28,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกันนำเข้ามาเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2530 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 70 ส่วนนางอนงค์ลักษณ์ประเมินราคาตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 14, 15,20, 21, 27, 28 และ 37-39 จำนวน 4 ใบขน ใบขนที่ 1 คือสินค้าเที่ยวที่ 3 ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 071-40859 มี 2 รายการ รายการที่ 1 เป็นกระสุนแบบ SS 22 LR จำนวน 200,000 นัด ราคา 19 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 31.24เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อมาจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียลจำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน 60,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2530 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 53 รายการที่ 2 เป็นกระสุนแบบ WB 12 POOSGจำนวน 30,000 นัด ราคา 163 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคาซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 251.07 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัดราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน10,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกันนำเข้ามาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2529 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 65 ใบขนที่ 2คือสินค้าเที่ยวที่ 4 ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 061-43913 มี 2 รายการรายการที่ 1 เป็นกระสุนแบบ X 22 WMR จำนวน 100,000 นัด ราคา55 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 83.80 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อมาจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน 70,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 28 เมษายน2531 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 55 รายการที่ 2 เป็นกระสุนปืนแบบ X 38 S1P จำนวน 30,000 นัด ราคา 125 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัดราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 199.70 เหรียญสหรัฐต่อ1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนรัตนาซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัด จำนวน 3,800 นัดซึ่งเป็นชนิด ขนาดและยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 6มิถุนายน 2527 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 69 ใบขนที่ 3 คือสินค้าเที่ยวที่ 5 ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 081-41017 มี 2 รายการรายการที่ 1 เป็นกระสุนปืนแบบ X 38 S7PH จำนวน 20,000 นัด ราคา151.10 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ประเมินราคาเพิ่มเป็น 253.70 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี.โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนภิภพซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัด จำนวน 3,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้าเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2527 ตามเอกสารหมาย ล.1แผ่นที่ 62 รายการที่ 2 เป็นกระสุนปืนแบบ X 32 AP จำนวน 20,000นัด ราคา 127.90 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ.ประเมินราคาเพิ่มเป็น 210.90 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคาเอฟ.โอ.บี. โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดมานิตย์ยนต์ซื้อมาจากบริษัทวินเชสเตอร์ จำกัด จำนวน 4,500 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้ามาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน2527 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 58 ใบขนที่ 4 คือสินค้าเที่ยวที่7 ใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ 071-41580 มี 3 รายการ โจทก์ฟ้องเพิกถอนเฉพาะรายการที่ 1 และติดใจฟ้องเพิกถอนเพียง 30,000 นัด ซึ่งความจริงรายการที่ 1 เป็นกระสุนปืนแบบ X 33 SWLP จำนวน 40,000นัด มาจากบัญชีราคาสินค้า 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 ตามเอกสารหมาย ล.1แผ่นที่ 38 จำนวน 30,000 นัด ราคา 129.65 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000นัด ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ฉบับที่ 2 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 39จำนวน 10,000 นัด ราคา 129.10 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคาซี.ไอ.เอฟ. กระสุนทั้ง 40,000 นัด โจทก์สั่งซื้อในวันเดียวกันโดยมีใบสั่งซื้อ 2 ฉบับ ผู้ขายส่งมาในเที่ยวเรือเดียวกัน ประเมินราคาเพิ่มเป็น 185.40 เหรียญสหรัฐต่อ 1,000 นัด ราคา เอฟ.โอ.บี.โดยอาศัยข้อมูลที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนราชาซื้อมาจากบริษัทโอลินอินดัสเตรียล จำกัด เมืองฮ่องกง จำนวน 3,000 นัด ซึ่งเป็นชนิด ขนาด และยี่ห้อเดียวกัน นำเข้าเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม2531 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 59 จากข้อมูลดังกล่าวมาแสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรถือเป็นเกณฑ์ประเมินเพิ่มราคาสินค้าเที่ยวที่ 1-3 เที่ยวที่ 4 รายการที่ 2เที่ยวที่ 5 และเที่ยวที่ 6 รายการที่ 1 เป็นราคาสินค้าที่ผู้อื่นนำเข้าก่อนโจทก์ 1-3 ปี เห็นได้ว่า ราคาย่อมจะเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะของตลาดจึงไม่อาจนำมาเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบกันได้ สำหรับสินค้าเที่ยวที่ 4 รายการที่ 1 เที่ยวที่ 6 รายการที่ 2 และเที่ยวที่ 7 รายการที่ 1 แม้ข้อมูลที่จำเลยถือเป็นเกณฑ์ประเมินจะมีเวลาใกล้เคียงกัน แต่จำนวนสินค้าที่โจทก์ซื้อแตกต่างจากจำนวนสินค้าที่ผู้นำเข้ารายอื่นซื้อมาก จึงไม่อาจนำราคาสินค้าที่ผู้นำเข้ารายอื่นสำแดงมาเป็นเกณฑ์ประเมินราคาสินค้าของโจทก์ได้ โจทก์นำสืบว่าราคาที่โจทก์สำแดงไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าทั้งเจ็ดฉบับเป็นราคาที่ผู้ขายคือบริษัทโอลินอินดัสเตรียล (ฮ่องกง) จำกัดเสนอขายให้แก่โจทก์โดยยืนราคาชั่วระยะเวลาหนึ่งตามใบเสนอราคาเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 1-3 และ 6-8 เป็นต้น หากลูกค้าในประเทศไทยสั่งซื้อกระสุนปืนภายในเวลาที่กำหนดและภายใต้เงื่อนไขในเอกสารดังกล่าว ลูกค้าทุกคนสามารถซื้อกระสุนปืนได้ในราคาที่ตั้งไว้ โจทก์ได้สั่งซื้อแล้วจ่ายเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัดและธนาคารกรุงไทย จำกัด ตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 11-16จำนวนเงินที่โจทก์จ่ายไปตรงตามราคาที่ระบุไว้ในใบเสนอราคาที่โจทก์อ้างดังกล่าวและตรงกับใบอินวอยซ์เอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่3, 9 และ 15 พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักน่าเชื่อกว่าพยานหลักฐานของจำเลย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ราคาสินค้าที่โจทก์ซื้อและสำแดงในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าของโจทก์เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด การประเมินของจำเลยจึงไม่ชอบ คำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน