คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7061/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทราบดีก่อนสมรสกับจำเลยว่า จำเลยชอบดื่มสุราและไปตกปลาแต่จำเลยดื่มสุราแล้วไม่เคยก่อความเสียหาย ส่วนการไปตกปลาและนอนค้างที่บ่อปลาจำเลยก็มิได้ไปค้างทุกวัน จำเลยอยู่บ้านสัปดาห์ละ2-3 วัน แม้โจทก์ย้ายไปอยู่กับบิดามารดาแล้ว จำเลยยังไปหาโจทก์และช่วยออกเงินต่อเติมห้องเพื่อใช้หลับนอนและไปเยี่ยมเยียนร่วมหลับนอนกับโจทก์ ส่วนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยร่วมประเวณีกับหญิงอื่นทำให้โจทก์เดือดร้อนเกินควรเพราะเกรงว่าจำเลยจะนำโรคร้ายมาแพร่แก่โจทก์ ก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์เคยได้รับโรคร้ายจากจำเลยทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยาจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติชั่วอันเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิฟ้องหย่า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลย แต่ระหว่างอยู่กินเป็นสามีภริยา จำเลยประพฤติตนดื่มสุราเป็นอาจิณและชอบอาละวาดทุบตีทำร้ายร่างกายของโจทก์ กล่าวคำผรุสวาทต่อโจทก์และบุพการีของโจทก์ จำเลยละทิ้งโจทก์ไปเลี้ยงดูได้เสียกับหญิงอื่นไม่ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์และบุตรมาเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี จำเลยมีความสัมพันธ์ได้เสียทางประเวณีกับหญิงอื่นในละแวกบ้านโจทก์ ทำให้โจทก์อับอายขายหน้าและทรมานจิตใจ จนโจทก์ไม่อาจอยู่กินเป็นสามีภริยากับจำเลยต่อไปได้ ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ประพฤติตนเสื่อมเสีย ไม่เคยด่าว่าทุบตีทำร้ายร่างกายโจทก์ ไม่เคยทิ้งร้างโจทก์ ไม่เคยมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น จำเลยอุปการะเลี้ยงดูโจทก์และบุตรด้วยดีเสมอมาจำเลยไม่เคยด่าว่าบุพการี แต่โจทก์เป็นฝ่ายประสงค์ไปอยู่กับชายอื่น จึงหาเหตุทะเลาะเบาะแว้งกับจำเลยแล้วพาบุตรไปอยู่บ้านบิดามารดา ไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน และหาเหตุฟ้องหย่าจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ทราบดีก่อนสมรสกับจำเลยว่าจำเลยชอบดื่มสุราและไปตกปลา และโจทก์เองก็ยอมรับว่าจำเลยดื่มสุราแล้วไม่เคยก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ ส่วนการไปตกปลาและนอนค้างที่บ่อปลา จำเลยก็มิได้ไปค้างทุกวัน จำเลยจะอยู่บ้านสัปดาห์ละ 2-3 วันแม้โจทก์จะย้ายไปอยู่กับบิดามารดาแล้ว จำเลยก็ยังไปหาโจทก์และช่วยโจทก์ออกเงินต่อเติมห้องเพื่อใช้หลับนอน และไปเยี่ยมเยียนร่วมหลับนอนกับโจทก์ที่บ้านบิดาโจทก์ ส่วนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยร่วมประเวณีกับหญิงอื่นทำให้โจทก์เดือดร้อนเกินควรเพราะเกรงว่าจำเลยจะนำโรคร้ายมาแพร่แก่โจทก์นั้น ก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์เคยได้รับโรคร้ายจากจำเลยแต่อย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติชั่วอันเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิฟ้องหย่า
พิพากษายืน

Share