คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่พยานฟังคำเบิกความของพยานคนก่อน ซึ่งได้เบิกความต่อหน้าตนมาแล้ว แม้จะเป็นคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ก็ต้องด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 114 ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15 เพราะโดยเจตนารมณ์ของกฎหมายหากพยานที่เบิกความภายหลังได้ฟังคำเบิกความของพยานคนก่อนมาแล้วไม่ว่าจะเป็นคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องหรือชั้นพิจารณา ผลก็คืออาจทำให้คำพยานที่เบิกความภายหลังไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเช่นเดียวกัน กรณีจึงใช้บังคับได้ทั้งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องและชั้นพิจารณา
แม้ตามบทบัญญัติดังกล่าวจะมิได้บังคับมิให้ศาลรับฟังคำเบิกความพยานที่เบิกความภายหลังซึ่งได้ฟังคำเบิกความของพยานตนก่อนก็ตาม แต่หากปรากฎว่า คำเบิกความของพยานที่เบิกความภายหลังอาจเปลี่ยนแปลงไปโดยฟังคำเบิกความของพยานคนก่อนหรือสามารถทำให้คำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลเปลี่ยนแปลงไปได้คำเบิกความของพยานที่เบิกความภายหลังก็เป็นการผิดระเบียบ ไม่มีน้ำหนักให้เชื่อฟังได้ และคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ต้องคัดค้านก่อนที่จะมีการนำพยานเข้าสืบเพราะเมื่อยังไม่ปรากฎว่าพยานจะเบิกความเป็นที่เชื่อถือฟังได้หรือไม่ และสามารถทำให้คำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลเปลี่ยนแปลงไปได้หรือไม่ ก็ต้องให้พยานเบิกความไปก่อนเพื่อศาลจะได้ใช้ดุลพินิจในการรับฟังว่าเป็นการผิดระเบียบหรือไม่ และกรณีดังกล่าวเป็นคนละเรื่องกับที่บัญญัติใน ป.วิ.พ. มาตรา 95 วรรคสอง ประกอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 15

Share