คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6411/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยตกลงซื้อขายที่ดินพิพาทกัน แต่ไม่สามารถจดทะเบียนโอนกันได้ เพราะที่ดินพิพาทตกอยู่ภายใต้ข้อกำหนดห้ามโอนตามกฎหมายจึงได้จดทะเบียนจำนองเป็นการอำพรางนิติกรรมซื้อขายนิติกรรมจำนองจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 118 วรรคหนึ่ง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยรับชำระหนี้และจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้จดทะเบียนจำนองที่ดินตาม น.ส.3เลขที่ 424 ซึ่งโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองต่อจำเลยเพื่อประกันหนี้เงินกู้จำนวน 57,000 บาท ไม่มีกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง ต่อมาโจทก์ประสงค์จะชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง ได้แจ้งบอกกล่าวจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง ขอให้บังคับจำเลยรับชำระหนี้ดังกล่าวและจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินตามน.ส.3. เลขที่ 424 และคืน น.ส.3 ฉบับดังกล่าวแก่โจทก์หากจำเลยไม่ปฏิบัติ ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ตกลงขายที่ดินพิพาทให้จำเลย และสละสิทธิการครอบครองมอบที่ดินให้จำเลยแล้ว แต่เนื่องจากขณะนั้นที่ดินพิพาทตกอยู่ภายใต้ข้อกำหนดห้ามโอนตามกฎหมาย โจทก์และจำเลยจึงได้ทำนิติกรรมจำนองที่ดินพิพาทเพื่ออำพรางการซื้อขาย โดยระบุจำนวนเงินจำนองเท่าราคาที่ตกลงซื้อขายกันหลังจากนั้นโจทก์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาท ส่วนจำเลยได้เข้าครอบครองและทำประโยชน์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยรับชำระหนี้จำนองจำนวน57,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวจนถึงวันรับชำระหนี้และจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินตาม น.ส.3เลขที่ 424 ให้โจทก์หากจำเลยไม่ยอมจดทะเบียนให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มีชื่อเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ตาม น.ส.3 เลขที่ 424 ซึ่งเป็นที่ดินอยู่ในกำหนดห้ามโอนภายใน 10 ปีตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 31 นับแต่วันที่ 9 เมษายน 2516 ครั้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2518 โจทก์และจำเลยตกลงซื้อขายที่ดินพิพาทกัน แต่ไม่สามารถจดทะเบียนโอนกันได้จึงได้จดทะเบียนจำนองเป็นการอำพรางนิติกรรมซื้อขาย แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่โจทก์และจำเลยจดทะเบียนจำนองเป็นการอำพรางนิติกรรมซื้อขาย นิติกรรมจำนองจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลยตามนิติกรรมจำนองที่ดินตามฟ้อง ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

Share