คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ทนายจำเลยป่วยขอเลื่อนคดีและมีใบรับรองแพทย์มาแสดง เมื่อโจทก์ไม่ค้านหรือโต้เถียงว่าทนายจำเลยไม่ป่วยจริง จึงต้องฟังว่าทนายจำเลยป่วยและความเจ็บป่วยเป็นความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงได้ เหตุขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยจึงมีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนได้ จำเลยมาศาลทุกนัด เพิ่งไม่มานัดที่ศาลสั่งให้คู่ความมาศาลเป็นนัดแรก เพราะอาจเห็นว่าทนายจำเลยป่วยและทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนแล้ว และหากจำเลยมาศาลโจทก์จำเลยไม่อาจตกลงกันได้ศาลก็ไม่อาจสืบพยานไปได้ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยจึงไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันชำระหนี้เงินกู้ที่นายประสิทธิ์ ศิริขัน กู้ไปจำนวน 50,000 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด (วันที่ 1ธันวาคม 2525) จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ จำเลยให้การว่านายประสิทธิ์ ศิริขันธ์ ไม่ได้กู้ยืมเงินและไม่ได้รับเงินจากโจทก์จำเลยไม่ได้เป็นผู้ค้ำประกัน ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดให้จำเลยนำสืบก่อน ในระหว่างนัดสืบพยานจำเลย จำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่าทนายจำเลยป่วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยจงใจประวิงคดีไม่อนุญาตให้เลื่อนและให้ถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ ให้งดสืบพยานจำเลย และสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์จำนวน 50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2525 จนกว่าจะชำระเสร็จจำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานใหม่ แล้วพิพากษาตามรูปคดี โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยนำสืบก่อนและนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 13 มีนาคม 2528เมื่อถึงวันนัดทนายโจทก์และจำเลยมาศาล ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าทนายจำเลยป่วยและมีใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานและจำเลยได้เจรจากับทนายโจทก์แล้วมีทางตกลงกันได้ ขอให้ศาลสั่งให้ตัวโจทก์มาศาลทนายโจทก์ไม่ค้าน และแถลงว่าคดีมีทางตกลงกันได้นัดหน้าทนายโจทก์จะแจ้งให้ตัวโจทก์มาศาล ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยวันที่ 24 เมษายน 2528 และให้ตัวความมาศาล โดยให้ทนายโจทก์แจ้งคำสั่งศาลให้โจทก์ทราบถึงวันนัดทนายโจทก์ทนายจำเลยและจำเลยมาศาล ทนายโจทก์แถลงว่า โจทก์ติดธุระสำคัญไม่อาจมาศาลได้ หากโจทก์และจำเลยเจรจากันมีทางตกลงกันได้ ขอเลื่อนจำเลยไม่ค้านและแถลงว่าหากได้เจรจากันคงตกลงกันได้ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยวันที่ 13 พฤษภาคม 2528 และมีคำสั่งว่า ให้ตัวความมาศาล ให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อมหากตกลงกันไม่ได้จะไม่ให้เลื่อนไม่ว่าด้วยเหตุประการใด ถึงวันนัดโจทก์ ทนายโจทก์และผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยมาศาล ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าทนายจำเลยป่วย ใบรับรองแพทย์ระบุว่าทนายจำเลยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ เจ็บคอ หลอดลมอักเสบเห็นควรให้หยุดพัก 3 วัน ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏว่าอาการป่วยหนักถึงขนาดจะมาศาลไม่ได้ ทั้งตัวจำเลยซึ่งศาลมีคำสั่งให้มาศาลด้วยตนเองก็ไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องใด ๆ เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยส่อไปในทางจงใจประวิงคดีไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ให้ถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบให้งดสืบพยานจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์
พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาที่ว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ ให้งดสืบพยานจำเลยชอบหรือไม่เห็นว่าทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าป่วยและมีใบรับรองแพทย์โจทก์ไม่ค้านหรือโต้เถียงว่าทนายจำเลยไม่ได้ป่วยจริง กรณีจึงต้องฟังว่าทนายจำเลยป่วยและความเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ เหตุขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยจึงมีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนได้สำหรับกรณีที่จำเลยไม่มาศาลตามคำสั่งจำเลยอาจมีเหตุจำเป็นหรืออาจเห็นว่าทนายจำเลยป่วยและทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนแล้วไม่จำต้องมาศาลก็เป็นได้ เมื่อพิจารณาประกอบพฤติการณ์ของจำเลยที่มาศาลทุกนัด เพิ่งไม่มาศาลในนัดนี้ และถ้าหากจำเลยมาศาลโจทก์จำเลยไม่อาจตกลงกันได้ ศาลก็ไม่อาจสืบพยานไปได้ด้วย ศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ ให้งดสืบพยานจำเลยจึงไม่ชอบ”
พิพากษายืน

Share