แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์อ้างสัญญายืมข้าวเปลือกเป็นพยาน ต่อมาคู่ความท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูสจน์ลายมือชื่อจำเลยในเอกสารดังกล่าวโดยให้ถือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโดยอาศัยผลจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ดังนี้ การที่ไม่่ได้เสียค่าอ้างเอกสารจึงเป็นเรื่องนอกเหนือคำท้า ไม่มีผลทำให้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเสียไป เมื่อได้ความว่าโจทก์เสียค่าอ้างเอกสารดังกล่าวแล้ว แม้จะเสียภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ข้าวเปลือก 24 เกวียนพื้นเมือง ตามสัญญายืมข้าวเปลือกแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยข้าวเปลือกอัตรา 2 เกวียนพื้นเมือง ต่อ 1 เกวียนพื้นเมืองจากต้นข้าวเปลือก24 เกวียนพื้นเมืองนับจากวันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ หากจำเลยไม่สามารถชำระหนี้ข้าวเปลือกได้ให้ชำระเงิน 60,480 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยยืมหรือทำสัญญายืมข้าวเปลือกจากโจทก์ สัญญายืมข้าวเปลือกตามฟ้องเป็นสัญญาปลอม จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์และจำเลยตกลงให้ส่งสัญญายืมข้าวเปลือกตามเอกสารหมาย จ.1 ไปให้ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐาน กรมตำรวจ ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของจำเลยโดยท้ากันว่า ถ้าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าลายมือชื่อในเอกสารหมาย จ.1 ใช่ลายมือชื่อหรือน่าเชื่อว่าใช่ลายมือชื่อของจำเลยจำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี ถ้าไม่ใช่ลายมือชื่อหรือน่าเชื่อว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดี ต่อมาผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์แล้วลงความเห็นว่าลายมือชื่อจำเลยในเอกสารหมาย จ.1กับตัวอย่างลายมือชื่อของจำเลยที่ส่งไปตรวจพิสูจน์น่าจะเป็นลายมือชื่่อของบุคคลคนเดียวกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ข้าวเปลือก 24 เกวียนพื้นเมือง ให้แก่โจทก์ หากไม่สามารถชำระหนี้ข้าวเปลือกได้ให้ชำระเป็นเงินจำนวน 60,480 บาท แทน กับให้จำเลยชดใช้ดอกเบี้ยข้าวเปลือก2 เกวียนพื้นเมือง ต่อ 1 เกวียนพื้นเมือง หากชำระดอกเบี้ยเป็นข้าวไม่ได้ ให้ชำระดอกเบี้ยเป็นเงินจากเงินต้น 60,480 บาท ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การพิพากษาคดีของศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยตามคำท้าของโจทก์จำเลยเป็นข้อแพ้ชนะโดยไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาของสัญญายืมข้าวเปลือก เอกสารหมาย จ.1 แต่ประการใดการที่โจทก์ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารดังกล่าว จึงเป็นเรื่องนอกเหนือคำท้าซึ่งไม่มีผลทำให้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเสียไป นอกจากนี้ยังได้ความว่าโจทก์ได้เสียค่าอ้างเอกสารมาแล้ว แม้จะเสียภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
พิพากษายืน