แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อายุความเกี่ยวกับการจ้างทำของนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 ห้ามมิให้ฟ้องผู้รับจ้างเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฎขึ้น กล่าวคือนับแต่วันที่ตรวจพบความชำรุดบกพร่อง หาใช้นับแต่วันที่อธิบดีกรมโจทก์ได้รับรายงานถึงความชำรุดบกพร่อง หรือหาใช่นับแต่วันรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเช่นคดีละเมิดไม่ เพราะผู้ที่พึงต้องใช้ค่าเสียหายในกรณีนี้ก็คือผู้รับจ้างนั่นเอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจ้างจำเลยให้ทำการก่อสร้างอาคารและสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งถางป่าและถมพื้นที่โดยมีข้อสัญญาว่าเมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างแล้วถ้ามีเหตุชำรุดเสียหายเกิดขึ้นแก่งานที่จ้างภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับมอบงานอันเกิดจากความผิดของผู้รับจ้างผู้รับจ้างต้องดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย ตามเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ต่อมาในระยะเวลาที่จำเลยต้องรับผิดเกี่ยวกับความชำรุดบกพร่อง โจทก์ตรวจพบว่าอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยก่อสร้างนั้นชำรุดเสียหายเป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียค่าซ่อมแซมความชำรุดบกพร่องและเนื่องจากความชำรุดบกพร่องดังกล่าวทำให้โจทก์ต้องจ่ายค่าน้ำประปาเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินความเป็นจริง โจทก์ได้ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระขอให้บังคับจำเลยร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ความชำรุดเสียหายตามรายการที่โจทก์อ้างมา แม้จะอยู่ในกำหนดระยะเวลาที่จำเลยต้องรับผิดก็หาอยู่ในขอบเขตที่จำเลยจะต้องรับผิดไม่ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความและโจทก์คำนวณความเสียหายสูงเกินไป ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อายุความเกี่ยวกับการจ้างทำของนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 ห้ามมิให้ฟ้องผู้รับจ้างเมื่อพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฎขึ้น กล่าวคือนับแต่วันที่ตรวจพบความชำรุดบกพร่อง หาใช่นับแต่วันที่อธิบดีกรมโจทก์ได้รับรายงานถึงความชำรุดบกพร่องไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า หลังจากรับมอบงานงวดสุดท้ายแล้วประมาณ 6 เดือนจึงพบความชำรุดเสียหาย โจทก์ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบความเสียหาย ในวันที่ 21 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2530 แสดงว่าเจ้าหน้าที่ของโจทก์ได้พบความชำรุดบกพร่องตั้งแต่หลัง 6 เดือน นับแต่วันรับมอบงานงวดสุดท้ายคือประมาณเดือนกันยายน 2529 หรืออย่างน้อยในวันที่คณะกรรมการที่โจทก์ตั้งขึ้นมาตรวจพบความเสียหายในวันที่21 กุมภาพันธ์ 2530 แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ที่โจทก์แก้ฎีกาว่า คดีนี้อธิบดีกรมโจทก์ได้รับทราบรายงานของคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่1 มีนาคม 2531 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความนั้น เห็นว่า อายุความเกี่ยวกับการฟ้องผู้รับจ้างนั้น ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะว่า ห้ามฟ้องผู้รับจ้างเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฎขึ้นหาใช่เมื่อรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเช่นคดีละเมิดไม่เพราะผู้ที่พึงต้องใช้ค่าเสียหายก็คือผู้รับจ้างนั่นเอง ดังนั้นโจทก์ต้องฟ้องจำเลยทั้งสามภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฎขึ้น แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เกิน 1 ปีแล้วคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฎีกาของจำเลยทั้งสามในข้อนี้ฟังขึ้น และไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นข้ออื่นอีกต่อไป
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์