คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3303/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การปรับปรุงซ่อมแซมอาคารตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 83 มีความหมายเพียงว่าซ่อมหรือเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารให้คงสภาพเดิม ทั้งต้องเป็นการกระทำเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงามเท่านั้นหาใช่ต่อเติมหรือขยายอาคารไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนอาคารตึก 4 ชั้น มีดาดฟ้ากว้าง3.75 เมตร ยาว 12 เมตร สูง 14.50 เมตร อาคารเลขที่ 508ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานครถ้าจำเลยไม่ยอมรื้อถอนอาคารดังกล่าว ก็ให้โจทก์รื้อถอนได้เองตามพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 42 โดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายแทนโจทก์
จำเลยให้การว่า อาคารเลขที่ 508 ดังกล่าวของจำเลยได้ปลูกสร้างมานานหลายสิบปีแล้วก่อนที่ข้อบัญญัติออกมาใช้บังคับ ส่วนในคราวที่โจทก์ฟ้องจำเลยเพียงปรับปรุงซ่อมแซมภายในอาคารเท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารตึก 4 ชั้นมีดาดฟ้ากว้าง 3.75 เมตร ยาว 12 เมตร สูง 14.50 เมตร อาคารเลขที่ 508 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนครกรุงเทพมหานคร ภายใน 60 วัน มิฉะนั้นก็ให้โจทก์รื้อถอนเองโดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นได้ว่าจำเลยก่อสร้างอาคารพิพาทจากตึกแถว 2 ชั้นเป็น 4 ชั้น มีการเจาะเสาเข็มซึ่งเป็นเข็มเจาะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 4 ชั้น ตามที่นายฉลองเบิกความ หาใช่เพียงแต่ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารพิพาทตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 83 ไม่ เพราะการซ่อมแซมอาคารหมายความเพียงว่า ซ่อมหรือเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารให้คงสภาพเดิม ทั้งต้องเป็นการกระทำเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามเท่านั้น หาใช่ต่อเติมหรือขยายอาคารไม่ส่วนที่ปรากฏตามรายงานการเผชิญสืบของศาลชั้นต้นว่า ศาลและนายช่างโยธาของโจทก์ดูกระเบื้องที่มุงกันสาดซึ่งยื่นออกไปจากพื้นชั้น 2 เป็นกระเบื้องที่เก่านั้น ก็ไม่มีเหตุให้ฟังว่าอาคารพิพาททั้งหลังเพียงแต่ปรับปรุงซ่อมแซมดังที่จำเลยฎีกาไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share