คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งเอกสารต่าง ๆเกี่ยวกับทรัพย์มรดกไว้ที่ศาล ผู้คัดค้านที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้คัดค้านที่ 1 ฎีกา คดียังไม่ถึงที่สุด คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คงมีผลผูกพันผู้คัดค้านที่ 1 ที่จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลฎีกาเปลี่ยนแปลงแก้ไขกลับหรืองดเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา145 วรรคแรก ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยอนุญาตให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 ต่างอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ต่อมาผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 ร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ผู้คัดค้านที่ 1 จัดส่งเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายมาไว้ที่ศาลชั้นต้นเพื่อผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งต้นฉบับเอกสารที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายมาไว้ที่ศาลผู้คัดค้านที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้คัดค้านที่ 1 ฎีกาคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอส่งสำเนาเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกแทนต้นฉบับโดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้คัดค้านที่ 1
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 1 กับผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 พิพาทกันว่าฝ่ายใดสมควรจะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย มิได้พิพาทกันเรื่องจัดการทรัพย์มรดก กรณีจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องให้ผู้คัดค้านที่ 1 จัดทำบัญชีทรัพย์สินและส่งต้นฉบับเอกสารต่อศาล จึงอนุญาตให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับเอกสารได้ตามคำร้องของผู้คัดค้านที่ 1
ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ผู้คัดค้านที่ 1 นำต้นฉบับเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายมาไว้ที่ศาลชั้นต้น
ผู้คัดค้านที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งต้นฉบับเอกสารที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายมาไว้ที่ศาลผู้คัดค้านที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้คัดค้านที่ 1ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าว คดียังไม่ถึงที่สุดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คงมีผลผูกพันผู้คัดค้านที่ 1 ที่จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลฎีกาเปลี่ยนแปลงแก้ไขกลับหรืองดเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา145 วรรคแรก ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้คัดค้านที่ 1 ส่งสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับจึงไม่ชอบ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้คัดค้านที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share