แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้ขณะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ส. เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือเช็คผู้ถือ แต่เช็คพิพาทก็เป็นเช็คที่จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 และย่อมโอนให้แก่กันได้โดยส่งมอบตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 918 ประกอบด้วยมาตรา 989 เมื่อโจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทมาจาก ส. โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และได้รับโอนสิทธิในเช็คพิพาทจาก ส. โดยโจทก์ไม่จำต้องนำเช็คไปขึ้นเงินอีกครั้งหนึ่ง ก็มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินตามเช็คได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายจำนวน 210,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ นายมงคลและผู้อื่นสมคบกันฉ้อฉลจำเลยเพื่อเป็นผู้ทรงเช็ค โดยที่มิได้มีการแลกเช็คกันจริง ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกนายมงคล วิจะระณะ เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาจำเลยขอถอนคำร้องที่ให้เรียกนายมงคลเข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาตและมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยร่วมออกจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงิน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2530ไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จสิ้นแก่โจทก์ ทั้งนี้ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องมิให้เกิน 10,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “แม้จะฟังว่าขณะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือเช็คผู้ถือโจทก์จะไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทก็ตาม แต่เช็คพิพาทก็ยังคงเป็นเช็คที่จำเลยผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 และย่อมโอนให้แก่กันได้โดยส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 918 ประกอบด้วยมาตรา 989 เมื่อโจทก์นำสืบโดยจำเลยมิได้นำสืบแก้เป็นอย่างอื่นรับฟังได้ว่าโจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทมาจากนายสงบ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904และได้รับโอนสิทธิในเช็คพิพาทจากนายสงบ โดยโจทก์ไม่จำต้องนำเช็คไปขึ้นเงินอีกครั้งหนึ่งก็มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินตามเช็คได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน