คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สำเนาทะเบียนบ้านเป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นหรือรับรองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันต้องนำสืบความไม่ถูกต้องของเอกสาร เมื่อไม่มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอมาสืบหักล้างจึงต้องถือว่าสำเนาทะเบียนบ้านนั้นถูกต้องแล้ว ผู้ตายได้รับรองว่าต.เป็นบุตรของตนต.จึงมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเมื่อต.ตายก่อนผู้ตาย ผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของ ต.จึงมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายแทนที่ ต.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นบุตรที่บิดารับรองแล้วของนายจุ้ม บุญมาวงศ์ ผู้ตาย ผู้ตายมีภรรยาชื่อนางปุ๊ด สายด้วงโดยมิได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ผู้ร้องกับนางสุดาประภาเมือง ก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ใดหรือตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งตั้งผู้ร้องให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อไป
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายที่บิดารับรองแล้วของนายตั๋นกับนางแห้ง บุญมาวงศ์นายตั๋นเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายจุ้มผู้ตายและนางแก้วบุญมาวงศ์ ซึ่งถึงแก่ความตายแล้ว ผู้ตายอยู่กินฉันสามีภรรยากับนางแก้วมาก่อนที่จะได้อยู่กินกับนางปุ๊ด ผู้ตายมีบุตรกับนางแก้ว 1 คน คือนายตั๋น การที่ผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียวเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต อาจเกิดความเสียหายแก่กองมรดกได้ ผู้คัดค้านประสงค์จะเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งตั้งให้นางจันคำ กาวีอ้ายผู้ร้องและนายเท่ง บุญมาวงศ์ ผู้คัดค้านร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของนายจุ้ม บุญมาวงศ์ ผู้ตายกับให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า นายจุ้ม บุญมาวงศ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อวันที่15 กุมภาพันธ์ 2526 โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมหรือแต่งตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก มีทรัพย์มรดกเป็นที่ดิน 5 แปลงตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เอกสารหมาย ร.6 ถึง ร.10 ผู้ร้องเป็นบุตรของผู้ตายที่ได้รับรองแล้ว ส่วนผู้คัดค้านเป็นบุตรของนายตุ๋นที่ได้รับรองแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า นายตั๋นเป็นบุตรของผู้ตายที่ได้รับรองแล้วหรือไม่ ในปัญหาข้อนี้ผู้ร้องมีตัวผู้ร้อง นางสุนดา ประภาเมือง นางปุ๊ด สายด้วงนายแก้ว กาวีอ้าย และนายเป็ง คำวงศ์ เป็นพยานเบิกความทำนองเดียวกันว่าตั้งแต่ผู้ตายยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งล้มป่วยและถึงแก่ความตายและตอนจัดงานศพไม่มีผู้ใดมากล่าวอ้างว่าเป็นบุตรของผู้ตายเลย นอกจากฝ่ายผู้ร้องเท่านั้น ส่วนผู้คัดค้านมีตัวผู้คัดค้าน นายทูล แสนใจกล้า นายผัด ริยะตา นางแห้ง บุญมาวงศ์และนายเอนก คุ้มพงษ์ เป็นพยานเบิกความยืนยันว่า นายตั๋นเป็นบุตรของผู้ตายกับนางแก้ว ศาลฎีกาเห็นว่า นอกจากผู้คัดค้านจะมีพยานคนกลางคือ นายทูลและนายผัดซึ่งเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลแม่พริก อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปางตามลำดับ เป็นพยานแล้ว ผู้คัดค้านยังมีสำเนาทะเบียนบ้านเอกสารหมายร.ค.2 มาแสดงซึ่งเอกสารดังกล่าวระบุว่านายตั๋นเป็นบุตรของผู้ตายกับนางแก้ว โดยมีนายเอนกนายอำเภอแม่พริกมาเบิกความรับรองสำเนาทะเบียนบ้านตามเอกสารหมาย ร.ค.2 เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นหรือรับรองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน ต้องนำสืบความไม่ถูกต้องแห่งเอกสารนั้น ผู้ร้องคงมีพยานบุคคลมาเบิกความลอย ๆไม่มีพยานหลักฐานใดมานำสืบหักล้างต้องถือว่าสำเนาทะเบียนบ้านตามเอกสารหมาย ร.ค.2 ถูกต้องแล้ว ทั้งยังได้ความจากนายทูลและนายผัดพยานผู้คัดค้านด้วยว่าผู้ตายได้แสดงออกกับชาวบ้านในละแวกนั้นว่านายตั๋นเป็นบุตรของผู้ตายและพักอาศัยอยู่ด้วยกันกับผู้ตาย และให้ใช้นามสกุลของผู้ตายด้วย เมื่อครั้งนายตั๋นแต่งงานกับมารดาของผู้คัดค้านก็ได้มาอยู่กินกันที่บ้านของผู้ตายตลอดมาจนผู้คัดค้านเกิด ผู้ตายก็แสดงออกว่าผู้คัดค้านเป็นหลานของผู้ตายจึงฟังได้ว่านายตั๋นเป็นบุตรของผู้ตายกับนางแก้วซึ่งผู้ตายได้รับรองแล้วจึงมีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย เมื่อนายตั๋นถึงแก่ความตายก่อนผู้ตาย ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายแทนที่นายตั๋น และการเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันก็ไม่ปรากฏว่าจะมีความเสียหายแก่กองมรดกแต่อย่างใด ผู้คัดค้านจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง”
พิพากษายืน

Share