คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายไม่สำเร็จเพราะอวัยวะเพศของผู้เสียหายมีขนาดเล็กและผู้เสียหายหนีบขาไว้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายแต่ผลการตรวจของแพทย์ไม่พบร่องรอยการร่วมประเวณีคงเป็นเพราะอวัยวะเพศของผู้เสียหายเล็กเกินไปจนอวัยวะเพศของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปลึกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และตรวจหลังเกิดเหตุถึง 3 วัน ดังนี้ ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จึงหาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 22 และ 23 สิงหาคม 2534 จำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหาย อายุ 8 ปี โดยผู้เสียหายไม่ยินยอม จำเลยกระทำความผิดไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 80, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสอง, 80, 91 รวม 2 กระทง วางโทษจำคุกกระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 8 ปี คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 5 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับฟังข้อเท็จจริงแตกต่างกับคำฟ้องหรือไม่เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายไม่สำเร็จเพราะอวัยวะเพศของผู้เสียหายมีขนาดเล็กและผู้เสียหายหนีบขาไว้ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายแต่ผลการตรวจของแพทย์ไม่พบร่องรอยการร่วมประเวณี คงเป็นเพราะอวัยวะเพศของผู้เสียหายเล็กเกินไปจนอวัยวะเพศของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปลึกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และตรวจหลังเกิดเหตุถึง 3 วันดังนี้ ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1จึงหาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share