แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกไปหาผู้ตายที่ร้านของ พ. แล้วจำเลยถามว่าผู้ตายอยู่หรือไม่ พอผู้ตายลุกขึ้นนั่งและพยักหน้า พวกของจำเลยอีกคนชักอาวุธปืนยิงผู้ตาย และจำเลยเข้ายิงซ้ำรวมกันถึง 7 นัดโดยจำเลยกับพวกไม่เคยรู้จักผู้ตายมาก่อน และก่อนเกิดเหตุมิได้ทะเลาะหรือมีเรื่องอะไรกับผู้ตาย ทั้งเมื่อยิงผู้ตายแล้วก็ช่วยกันเก็บปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้เหลือพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ อันจะเป็นพยานหลักฐานผูกมัดตัวจำเลยกับพวกในภายหลังแสดงถึงความเป็นมือปืนอาชีพ จึงได้ใจเย็นและมีประสบการณ์เช่นนั้นตามพฤติการณ์เห็นได้ว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางแผนตระเตรียมการที่จะมาฆ่าผู้ตายไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายหลายนัด โดยเจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288, 289, 83 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 289 ลงโทษประหารชีวิต ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้อง ส่วนปลอกกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์ในการกระทำผิดให้ริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้จากคำเบิกความของนางแพประกอบคำเบิกความของนางสาวพรทิพย์ประจักษ์พยานทั้งสองของโจทก์ว่า จำเลยกับพวกไปหาผู้ตายที่ร้านขายของชำของนางแพแล้วจำเลยถามว่า ผู้ตายอยู่หรือไม่ พอผู้ตายลุกขึ้นนั่งและพยักหน้าพวกของจำเลยอีกคนก็ชักอาวุธปืนยิงผู้ตาย และจำเลยเข้ายิงซ้ำรวมกันถึง 7 นัด พฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยกับพวกดังกล่าวเมื่อพิจารณาประกอบข้อเท็จจริงว่า จำเลยกับพวกไม่เคยรู้จักผู้ตายมาก่อน และก่อนเกิดเหตุมิได้ทะเลาะหรือมีเรื่องอะไรกับผู้ตายทั้งเมื่อยิงผู้ตายจนถึงแก่ความตายแล้ว ก็ช่วยกันเก็บปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้เหลือพยานวัตถุในที่เกิดเหตุอันจะเป็นพยานหลักฐานผูกมัดตัวจำเลยกับพวกในภายหลัง แสดงถึงความเป็นมือปืนอาชีพ จึงได้ใจเย็นและมีประสบการณ์เช่นนั้น ตามพฤติการณ์เห็นได้ชัดว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางแผนตระเตรียมการที่จะมาฆ่าผู้ตายไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น